สหรัฐฯ
ระบุเมื่อ 10 ส.ค.64 มอบเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา และเพื่อรับมือวิกฤต COVID-19 นอกจากนี้ ยังมอบเงินช่วยเหลืออีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไทยเพื่อรับมือวิกฤต COVID-19 เช่นกัน
ระบุเมื่อ 10 ส.ค.64 มอบเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา และเพื่อรับมือวิกฤต COVID-19 นอกจากนี้ ยังมอบเงินช่วยเหลืออีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับไทยเพื่อรับมือวิกฤต COVID-19 เช่นกัน
ประกาศเมื่อ 10 ส.ค.64 จะยุติการให้บริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ใน 11 ต.ค.64 เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 มากขึ้น หลังจากพบว่า ประชาชนบางส่วนเลือกตรวจหาเชื้อแทนการเข้ารับวัคซีน
ประกาศเมื่อ 9 ส.ค.64 บังคับใช้มาตรการ Lockdown ในนครไกสอน พมวิหาน แขวงสะหวันนะเขต ระหว่าง 9-23 ส.ค.64 หลังจากพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในชุมชนจำนวน 6 คน เมื่อ 9 ส.ค.64 อีกทั้งกำหนดให้ บ.โนนสะหวัด เป็นพื้นที่สีแดง ส่วนพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่สีเหลือง
ประกาศเมื่อ 9 ส.ค.64 จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีน COVID-19 แบบวอล์กอิน สำหรับชาวสิงคโปร์ และผู้ถือตรวจลงตราประเภทพำนักระยะยาวทุกกลุ่มอายุ ตั้งแต่ 10 ส.ค.64 เพื่อเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อยร้อยละ 80 ภายใน ก.ย.64
ประกาศเมื่อ 9 ส.ค.64 ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการจำกัดกิจกรรมชุมชน (Emergency PPKM) บนเกาะชวา และเกาะบาหลี ซึ่งครบกำหนด เมื่อ 9 ส.ค.64 ออกไปจนถึง 16 ส.ค.64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่วนมาตรการควบคุมบนเกาะอื่นให้มีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึง 23 ส.ค.64
ประกาศเมื่อ 9 ส.ค.64 ออกคำเตือนระดับ 4 (ระดับสูงสุด) ให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางไปไทย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ COVID-19 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยรุนแรงขึ้น
ประกาศเมื่อ 9 ส.ค.64 เปิดให้คนต่างด้าวในอินเดียสามารถลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ผ่านระบบ Co-Win โดยใช้หนังสือเดินทางเป็นเอกสารในการลงทะเบียน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้คนต่างด้าวในอินเดีย และลดอัตราการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
บาห์เรน ระบุเมื่อ 9 ส.ค.64 จะเริ่มการทดสอบทางคลินิกของยารักษาโรค COVID-19 ชนิดพ่นจมูก Enovid ที่พัฒนาโดยบริษัท SaNOtize ของแคนาดา ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ก่อนจะพิจารณาอนุมัติใช้ และจะเปิดให้ประชาชนซื้อยาดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์
ระบุเมื่อ 9 ส.ค.64 ถึงผลการวิจัยของสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) พบว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 สลับชนิด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็ม และมีความปลอดภัย โดยฉีดวัคซีน Covishield เป็นเข็มที่ 1 และวัคซีน Covaxin เป็นเข็มที่ 2
แถลงเมื่อ 9 ส.ค.64 ถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตาเพิ่มขึ้นใน 13 ภูมิภาค จากทั้งหมด 17 ภูมิภาค ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ปัจจุบัน ฟิลิปปินส์ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 47 หรือเฉลี่ย 7.2 คน ต่อประชากร 100,000 คน