The Intelligence Update 27/03/2024 : ชาติตะวันตกเปิดศึกวิวาทะ ปมเหตุจีนจารกรรมไซเบอร์
พบกับรายการ The Intelligence Update อัปเดตสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่อง “ชาติตะวันตกเปิดศึกวิวาทะ ปมเหตุจีนจารกรรมไซเบอร์”
The Intelligence Weekly Review 24/03/2024
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
บริหารส่วนท้องถิ่นรัสเซียขอให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ตะวันตกของภูมิภาคเบลโกรอดเพื่อความปลอดภัย
The Moscows Times รายงานเมื่อ 21 มี.ค.67 ว่า นาย Gennady Bondaryov ผู้อำนวยการเขต Graivoron ของแคว้นเบลโกรอด ร้องขอความร่วมมือประชาชนให้อพยพออกจากพื้นที่โดยสมัครใจ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีความตึงเครียดสูง เพราะเขตดังกล่าวตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแคว้นเบลโกรอดติดชายแดนยูเครน และถูกโจมตีหลายครั้งนับตั้งแต่รัสเซียปฏิบัติการในยูเครน ส่วนภูมิภาค Yaroslavl ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือจากกรุงมอสโกมากกว่า 100 กิโลเมตร ก็มีความพร้อมที่จะรองรับผู้อพยพจากเขต Graivoron ทั้งนี้ เมื่อ 20 มี.ค.67 กองพลอาสาสมัครรัสเซีย หนึ่งในกลุ่มกองกำลังติดอาวุธที่สนับสนุนยูเครน เตือนการโจมตีอย่างต่อเนื่อง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัสเซียอพยพประชาชนออกจากภูมิภาคเบลโกรอด
ฮังการีจะผลักดันให้ EU กลับมาเจรจา FTA กับมาเลเซีย
สำนักข่าว Hungary Today รายงานอ้างถ้อยแถลงของนาย Péter Szijjártó รัฐมนตรีต่างประเทศและการค้าของฮังการี ระหว่างเดินทางเยือนมาเลเซีย เมื่อ 21 มี.ค.67 ว่า สหภาพยุโรป (EU) จะกลับมาเจรจาเขตการค้าเสรี (Free trade area-FTA) กับมาเลเซีย ในช่วงวาระ 6 เดือนที่ฮังการีดำรงตำแหน่งประธานสหภาพยุโรป พร้อมเน้นย้ำว่า การปรับปรุงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่าง EU และมาเลเซียมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งฮังการีต้องการจะผลักดันให้ประสบผลสำเร็จ ทั้งนี้ EU และมาเลเซียเคยเริ่มเจรจา FTA เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถบรรลุผลการเจรจา เนื่องจากข้อจำกัดจากกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ EU กำหนดไว้ ฮังการีและมาเลเซียยังหารือด้านการระหว่างประเทศและการค้าที่สำคัญอีกหลายประเด็น อาทิ ฮังการีจะช่วยผลักดันให้ประเทศสมาชิก EU 16 ประเทศ (จากทั้งหมด 27 ประเทศ) ให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงความร่วมมือทางการเมืองกับมาเลเซีย นอกจากนี้ กรณีที่มีการระบาดของไวรัสในเนื้อหมูและเนื้อสัตว์ปีก ฮังการีต้องการให้มาเลเซียสั่งห้ามการนำเข้าจากภูมิภาคใกล้เคียงเท่านั้น แทนที่จะสั่งห้ามนำเข้าจากทั้งประเทศ รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยด้านเทคนิคของฮังการีและมาเลเซียด้านรถยนต์ไฟฟ้า…
Fitch Ratings ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกาตาร์ จากระดับ AA- เป็น AA
สำนักข่าว Al Jazeera รายงานเมื่อ 20 มี.ค.67 อ้างสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศของกาตาร์ จากระดับ AA- เป็นระดับ AA โดยประเมินจากแนวโน้มรายได้จากแหล่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของกาตาร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะทำให้กาตาร์มีการเกินดุลงบประมาณต่อเนื่องไปจนถึงปี 2573 เพราะกาตาร์ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิต LNG จาก 77 ล้านตันต่อปี เป็น 142 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 นอกจากนี้ Fitch Ratings ยังประเมินว่า อัตราส่วนหนี้สินของรัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2568 ของกาตาร์ จะลดลงเหลือประมาณร้อยละ 45 จากเมื่อปี 2563 ที่อยู่ร้อยละ 85 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุด อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ความขัดแย้งในฉนวนกาซาขยายความรุนแรงไปสู่ระดับภูมิภาค อาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของกาตาร์ในอนาคตได้
ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติรับรองข้อมติเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์เป็นครั้งแรก
ข่าวสารนิเทศองค์การสหประชาชาติ รายงานเมื่อ 21 มี.ค.67 ว่าในวันเดียวกัน ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nฤtions General Assembly – UNGA) รับรองข้อมติว่าด้วยการส่งเสริมระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่ปลอดภัย มั่นคง และเชื่อถือได้ (The Resolution on the Promotion of Safe, Secure and Trustworthy Artificial Intelligence Systems) ซึ่งเสนอโดยสหรัฐฯ และเป็นครั้งแรกที่ UNGA ออกข้อมติที่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งนี้ ข้อมติดังกล่าวเล็งเห็นศักยภาพของ AI ในการเร่งให้เกิดความก้าวหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDG) พร้อมทั้งเสนอให้รัฐสมาชิกและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ใช้ AI ในทางที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งสนับสนุนให้ประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงและได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยี AI อย่างเท่าเทียม เพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัล
ประเมินแนวโน้มการก่อการร้ายปี 2567
แม้ว่าความท้าทายและอันตรายจากการก่อการร้ายจะไม่ได้ถูกจัดให้เป็นความกังวลอันดับแรก ๆ ของสหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว แต่ความท้าทายจากการกระทำที่เป็นการก่อการร้าย หรือ act of terror ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีแนวคิดสุดโต่ง (extremist)
สัมพัทธ์วัฒนธรรมบอลลีวูด (Bollywood Cultural Relativism) เส้นทางสู่ชัยชนะของ นเรนทรา โมดี
การเลือกตั้งทั่วไปของอินเดียที่จะมีขึ้นในห้วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2567 จะส่งผลให้ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งอาจหน้าเดิม? โดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี คนปัจจุบันดำรงตำแหน่งนี้มาแล้วถึง 2 สมัย ช่วงปี 2557 – 2567 และขณะนี้นายโมดีกำลังเตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่นี้อยู่ โดยนายโมดีนั้นมีฐานเสียงจำนวนมากที่เป็นทั้งชาวอินเดียคนรุ่นเก่า คนรุ่นกลาง และคนรุ่นใหม่ นเรนทรา โมดี มีดีอย่างไร ถึงครองใจประชาชนอินเดียยาวนานกว่าทศวรรษ นายนเรนทรา ดาโมดาร์ดาส โมดี (Narendra Damodardas Modi) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอินเดีย ประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหัวหน้าพรรคภารตียชนตา หรือ Bharatiya Janata Party (BJP) พรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย อีกทั้งโมดียังเป็นผู้นำคนแรกของอินเดียที่นำศาสนาและความรักชาติมาผนวกกัน ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญของอินเดียนั้นระบุอย่างชัดเจนว่าอินเดียเป็นประเทศที่ไม่มีศาสนาประจำชาติ (secular state) ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ จนสังคมอินเดียในยุคก่อนโมดีและหลังโมดีแตกต่างกันอย่างมาก ไม่ว่าในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความคิดของคนในชาติ และเป็นสิ่งที่ยากที่จะหาผู้นำประเทศที่มีความเด็ดขาดในการใช้อำนาจ การออกกฎหมาย และมีบารมีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้านเช่นในขณะนี้ …….นเรนทรา…
เมียนมาเป็นประเทศหลักที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากจีนภายใต้กรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (LMC)
สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อ 20 มี.ค.67 ว่า นาย Chen Hai เอกอัครราชทูตจีน/ย่างกุ้ง แถลงต่อสื่อมวลชนเมียนมาว่า เมียนมาเป็นประเทศหลักที่ได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากจีนภายใต้กรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (Lancang-Mekong Cooperation – LMC) โดยห้วงปี 2560-2564 เมียนมาได้รับเงินช่วยเหลือจากจีนรวมกว่า 31.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้การดำเนินงาน 106 โครงการ ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคเกษตรกรรม การศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข วัฒนธรรม การค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการจัดการน้ำ ทำให้ปัจจุบัน LMC กลายเป็นกลไกความร่วมมือหลักระหว่างเมียนมากับจีน
ผบ.INDOPACOM ประเมินว่าจีนเตรียมบุกไต้หวันภายในปี 2570
สำนักข่าวบลูมเบอร์ก รายงานอ้างถ้อยแถลงของ พล ร.อ. John Aquilino ผู้บัญชาการกองบัญชาการภาคพื้นอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ (INDOPACOM) ต่อคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อ 20 มี.ค.67 ว่า จีนเตรียมความพร้อมที่จะรุกรานไต้หวันภายในปี 2570 เมื่อพิจารณาจากงบประมาณทางการทหารของจีนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 มูลค่ากว่า 223,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ สะท้อนว่าจีนเร่งพัฒนาขีดความสามารถด้านการทหารและอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งการเพิ่มจำนวนเครื่องบินรบกว่า 400 ลำ เรือรบขนาดใหญ่มากกว่า 20 ลำ ขีปนาวุธนําวิถีและขีปนาวุธร่อน ตลอดจนการซ้อมรบในรูปแบบต่าง ๆ รวมถึงการจำลองเส้นทางปิดล้อมทางทะเลและอากาศ