ทำไมตลาดหุ้นถึงถูกเทขายหลังประกาศผลเลือกตั้งทั่วไปปี 2566
วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกหลังผลการนับคะแนนเลือกตั้งออกมาในทิศทางที่พรรคก้าวไกลจะได้รับชัยชนะและสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลไทย ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ก็ปรับตัวร่วงลงมาทันทีเกือบ 20 จุด จากนั้นก็ได้มีแรงเทขายทยอยปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดสัปดาห์จนปิดแท่งสัปดาห์ที่ 1514.89 จุด นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนต่างประเทศจำนวนหนึ่งพร้อมใจกันเทขายพันธบัตรไทย รวมเป็นเม็ดเงินมูลค่ากว่า 30,000,000,000 บาท ส่งผลให้เงินบาทพลิกตัวกลับไปอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 เดือนที่ราคา 34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สื่อหลายสำนักตั้งข้อสังเกตว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นการสะท้อนถึงทัศนคติของบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งมีความกังวลในนโยบายประชานิยมของพรรคก้าวไกล ทั้งการปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท/วัน และการเพิ่มสวัสดิการแรงงานที่อาจทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีภาระด้านต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น..แล้วตัดสินใจย้ายฐานการผลิตไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่มีอัตราค่าแรงต่ำกว่าไทย (อาทิ เวียดนาม) ได้ ข้อคิดดังที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ แม้จะเป็นความเป็นจริงแต่ยังไม่ครอบคลุมถึงปัจจัยหลักเท่าใดนัก เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวในตลาดทุนไทย จะเห็นได้ว่าดัชนี SET Index นั้นได้แสดงสัญญาณการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อห้วงมกราคม 2566 แล้ว เพราะธนาคารกลางแห่งสหรัฐฯ (Fed) ได้ประกาศออกมาว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังไม่ปรับตัวลงไปยังจุดที่ Fed ลงความคิดเห็นว่า ‘ปลอดภัย’ จึงจำเป็นต้องเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกประมาณ 2-3 ครั้ง ตลอดห้วงปี 2566 เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ ชะลอการผลิต…