The Intelligence Weekly Review (16/07/2023)
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
เว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีอียิปต์ เผยแพร่เมื่อ 13 ก.ค.66 ว่า นายอับดุลฟัตตาห์ อัซซีซี ประธานาธิบดีอียิปต์ หารือร่วมกับนาย Abiy Ahmed ประธานาธิบดีของเอธิโอเปีย เมื่อ 12 ก.ค.66 เพื่อหารือแนวทางแก้ไขและยุติความขัดแย้งในซูดานโดยสันติวิธี โดยเสนอให้พัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของประเทศเพื่อนบ้านและประสานความร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศทั้งในระดับภูมิภาคแอฟริกาและระดับนานาชาติ นอกจากนี้ อียิปต์และเอธิโอเปียยังหารือเพิ่มเติมในประเด็นข้อพิพาทเขื่อน Grand Ethiopian Renaissance Dam (GERD) และการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน
สำนักข่าว Reuters และเว็บไซต์ The Star ของเคนยา รายงานเมื่อ 12 ก.ค.66 ว่า นายวิลเลียม รูโต ประธานาธิบดีเคนยา ให้การต้อนรับนายอิบรอฮีม เราะอีซี ประธานาธิบดีอิหร่าน ในระหว่างการเยือนเคนยาอย่างเป็นทางการเมื่อ 12 ก.ค.66 เพื่อหารือและลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีเพื่อการพัฒนาจำนวน 5 ฉบับ ครอบคลุมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การประมง ปศุสัตว์ และการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งในโอกาสนี้อิหร่านเสนอการลงทุนตั้งโรงงานประกอบอุตสาหกรรมยานยนต์ในเคนยา โดยนายรูโตแถลงผ่านสื่อมวลชนในวันเดียวกันว่า เคนยากับอิหร่านจะร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แน่นแฟ้น เพื่อการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างกัน ทั้งนี้ นายเราะอีซี มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคแอฟริกาอีกสองประเทศ ได้แก่ ยูกันดา และซิมบับเว
สำนักข่าว Al Jazeera รายงานเมื่อ 12 ก.ค.66 ว่า กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านเรียกนาย Alexey Dedov เอกอัครราชทูตรัสเซีย ณ กรุงเตหะราน อิหร่าน เข้าพบเพื่อคัดค้านและเรียกร้องให้รัสเซียแก้ไขจุดยืนในแถลงการณ์ร่วมระหว่างรัสเซียกับคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council-GCC) ภายหลังการประชุมระดับรัฐมนตรีร่วมการหารือยุทธศาสตร์ระหว่าง GCC กับรัสเซีย ครั้งที่ 6 ที่กรุงมอสโก รัสเซีย เมื่อ 10 ก.ค.66 ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนความคิดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates-UAE) เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างอิหร่านกับ UAE ประเด็นการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนและอธิปไตยของเกาะ Greater Tunb เกาะ Lesser Tunb และเกาะ Abu Musa ซึ่งตั้งอยู่ในช่องแคบฮอร์มุซและอยู่ภายใต้การปกครองของอิหร่านตั้งแต่ปี 2514 ผ่านวิธีการเจรจาทวิภาคีหรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ขณะที่นาย Nasser Kanaani โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน และนาย Mohammad Dehghan รองประธานาธิบดีฝ่ายกิจการกฎหมายอิหร่าน แสดงท่าทีคัดค้านต่อแถลงการณ์ดังกล่าว…
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์เมื่อ 13 ก.ค.66 ว่า นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะเยือนซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์อย่างเป็นทางการ ระหว่าง 16-18 ก.ค.66 โดยมีกำหนดจะพบหารือกับผู้นำของทั้งสามประเทศในหลายประเด็น เช่น สถานการณ์ในภูมิภาค สถานการณ์ระหว่างประเทศ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี นอกจากนี้ นายคิชิดะมุ่งหวังจะใช้โอกาสนี้เพื่อยืนยันถึงความร่วมมืออย่างรอบด้านกับทั้งสามประเทศ รวมถึงด้านพลังงาน และส่งเสริมการสร้างระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างบนพื้นฐานของหลักนิติธรรมตามมติที่ประชุมสุดยอดกลุ่ม G7 เมื่อ พ.ค.66 ที่ จ.ฮิโรชิมะ ญี่ปุ่น อีกทั้งมีเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าหมายขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทญี่ปุ่น
กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เผยแพร่แถลงการณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกลุ่ม G7 และผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง (EU High Representative for Foreign Affairs and Security Policy) เมื่อ 13 ก.ค.66 ประณามเกาหลีเหนือที่ยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile-ICBM) เมื่อ 12 ก.ค.66 เนื่องจากเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของประชาคมระหว่างประเทศ บั่นทอนหลักการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council-UNSC) พร้อมย้ำถึงข้อเรียกร้องของกลุ่ม G7 ให้เกาหลีเหนือยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และตอบรับการจัดการเจรจาทางการทูตที่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ร่วมกันผลักดัน นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ UNSC มีมาตรการตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างเป็นเอกภาพโดยเร็วต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นเจตนาละเมิดมติ UNSC อย่างต่อเนื่อง แต่ที่ผ่านมา UNSC ไม่สามารถดำเนินการต่อเกาหลีเหนือได้จากการที่ประเทศสมาชิกบางส่วนคัดค้าน
นายฮายาชิ โยชิมาซะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น แถลงเมื่อ 13 ก.ค.66 ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยินดีต่อการที่สหภาพยุโรป (European Union-EU) ประกาศจะยกเลิกมาตรการจำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจากญี่ปุ่น ซึ่ง EU บังคับใช้หลังเหตุการณ์อุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ 1 (Fukushima Daiichi Nuclear Power Station-FDNPS) เมื่อปี 2554 และรัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้ EU ยกเลิกมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการยกเลิกมาตรการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการฟื้นฟูพื้นที่ของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น (Great East Japan Earthquake) เมื่อปี 2554
พบกับรายการ The Intelligence Updates อัปเดตสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะรวบรวมสถานการณ์น่าสนใจทั่วทุกมุมโลกมาอัปเดตให้ท่านผู้ฟังแบบเรียลไทม์ วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่อง “ติดตามการประชุมอาเซียนและการประชุมสุดยอดเนโต”
พบกับรายการ The Intelligence Updates อัปเดตสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะรวบรวมสถานการณ์น่าสนใจทั่วทุกมุมโลกมาอัปเดตให้ท่านผู้ฟังแบบเรียลไทม์ วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่อง “สงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ หลังจีนจำกัดการส่งออกโลหะผลิตชิป”
นายฮายาชิ โยชิมาซะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น แถลงเมื่อ 12 ก.ค.66 ว่า ญี่ปุ่นคัดค้านการอ้างอำนาจอธิปไตยในทะเลจีนใต้ที่ขัดต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (United Nations Convention on the Law of the Sea-UNCLOS) รวมทั้งความพยายามกระทำการเพียงฝ่ายเดียวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม (Status quo) พร้อมแสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบันในทะเลจีนใต้ และย้ำว่าคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเมื่อปี 2559 กรณีพิพาททะเลจีนใต้ เป็นที่สิ้นสุดและมีผลผูกพันต่อจีนและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นคู่พิพาท ภายใต้บทบัญญัติแห่ง UNCLOS ซึ่งญี่ปุ่นคาดหวังให้คู่พิพาททั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามคำชี้ขาดดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ญี่ปุ่นชื่นชมฟิลิปปินส์ที่ปฏิบัติตามคำชี้ขาดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ตำหนิจีนที่แสดงท่าทีไม่ยอมรับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อหลักการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ และบั่นทอนหลักนิติธรรมซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของประชาคมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นให้คำมั่นจะร่วมมือกับอาเซียนและประเทศที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อรักษาและส่งเสริมการสร้างระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม