เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ The Times of Israel รายงานเมื่อ 31 ต.ค.66 อ้างนายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และนาย Ron Dermer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการยุทธศาสตร์อิสราเอล เปิดเผยว่า อิสราเอลจะขยายการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผ่านด่าน Rafah ของอียิปต์ เข้าไปฉนวนกาซาให้ได้วันละ 100 คันรถบรรทุก ตามเป้าหมาย ภายในสองหรือสามวันข้างหน้า หลังจากปัจจุบันจำนวนรถขนส่งความช่วยเหลือเข้าไปได้ประมาณวันละ 20-40 คัน ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของเป้าหมาย โดยจะยังคงจำกัดเฉพาะอาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์ ส่วนการส่งเชื้อเพลิงยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เตือนว่า ความช่วยเหลือที่เข้ามาในฉนวนกาซามีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอจะตอบสนองความต้องการด้านมนุษยธรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ กดดันอิสราเอลให้ขยายการส่งความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา โดยอิสราเอลตกลงจะเร่งการตรวจสอบขบวนรถขนส่งความช่วยเหลือให้เร็วขึ้น เพราะเห็นว่าความช่วยเหลือที่เข้าไปเพิ่มมากขึ้นจะดึงดูดพลเรือนในพื้นที่ตอนเหนือให้อพยพมายังตอนใต้ของฉนวนกาซา จะเอื้อให้อิสราเอลปฏิบัติภาคพื้นดินและโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาโดยไม่ส่งผลกระทบต่อพลเรือน