สำนักข่าว New Straits Times รายงานเมื่อ 30 ต.ค.66 ว่า ผู้แทนกระทรวงการค้าภายในและค่าครองชีพประจำรัฐกลันตัน มาเลเซีย มาเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย (ไม่ได้ระบุหน่วยงาน) ในประเด็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ทั้งน้ำมันเบนซิน ดีเซล และน้ำมันพืชสำหรับประกอบอาหาร ซึ่งผู้แทนทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องการดำเนินมาตรการที่สอดคล้องกัน อาทิ การกั้นรั้วตลอดแนวชายแดน 96 กิโลเมตร กำหนดพื้นที่กันชนหรือพื้นที่ปลอดภัย (buffer or safety zone) เว้นระยะ 100 เมตรจากริมแม่น้ำโกลก ซึ่งอาจทำเป็นสวนสาธารณะและติดตั้งไฟส่องสว่างเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราได้สะดวกขึ้น
ทั้งนี้ บริเวณชายแดนทางใต้ของไทยเผชิญปัญหาการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซีย เนื่องจากนโยบายอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงของรัฐบาลมาเลเซียเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะค่าครองชีพสูง ทำให้ราคาเชื้อเพลิงในมาเลเซียต่ำกว่าของไทยมาก จึงมีขบวนการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียเข้ามาขายในไทยทั้งช่องทางทางบกและทางทะเล เพื่อจำหน่ายต่อให้แก่ลูกค้ารายย่อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ (จชต.) เช่น ปั๊มหลอด เรือประมง