การปฏิบัติการทางทหารระหว่างกองทัพอิสราเอล-กลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซายุติลงชั่วคราวเป็นครั้งแรกในช่วงเช้าของวันนี้ (24 พ.ย.66) หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายโจมตีกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 7 ต.ค.66 การหยุดยิงทั่วพื้นที่ฉนวนกาซาครั้งนี้ มีกาตาร์เป็นตัวกลางในการเจรจาและเปิดเผยรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับข้อตกลงในการหยุดยิง ที่จะเป็นโอกาสให้นานาชาติเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา โดยอียิปต์พร้อมจะเร่งส่งพลังงานน้ำมันและก๊าซเข้าไปในพื้นที่ รวมทั้งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มฮะมาสจะปล่อยตัวประกันที่ควบคุมไว้ในฉนวนกาซาจำนวน 50 คน
กลุ่มฮะมาสวางอาวุธตามข้อตกลง และมีข้อมูลว่าจะปล่อยตัวประกันกลุ่มแรกจำนวน 13 คนในวันเดียวกัน ส่วนมากเป็นเด็กและสตรี ด้านกาตาร์เปิดเผยว่า คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ International Committee of the Red Cross (ICRC) จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการปล่อยตัวประกัน และเชื่อว่า อิสราเอลอาจปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ที่อยู่ในการควบคุมในเรือนจำของอิสราเอลบางส่วนด้วย โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่าอิสราเอลอาจปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์กลุ่มแรกจำนวน 39 คน อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังไม่ยืนยันว่าจะปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์ และถอนกำลังทหาร แต่จะให้กองทัพอิสราเอลเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่ากองทัพอิสราเอลกำลังจะขยับการทำสงครามสู่ขั้นตอนต่อไป จนกว่าจะได้รับคำสั่งให้ยุติการโจมตี
กองทัพอิสราเอลยุติการโจมตีในฉนวนกาซา แต่มีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลลาดตระเวนและจับกุมชาวปาเลสไตน์และพลเรือนที่อยู่อาศัยในเขตเวสต์แบงก์ รวมทั้งในค่ายผู้ลี้ภัย Balata ปัจจุบันหลายฝ่ายกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้อาจล้มเหลว โดยผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกาไม่เชื่อมั่นกลุ่มฮะมาส เพราะถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่อิสราเอลย้ำให้ประชาคมระหว่างประเทศเข้าใจว่าข้อตกลงนี้ไม่ใช่ข้อตกลงหยุดยิงระยะยาว (long-term cease-fire)
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่ากองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส จะกลับไปโจมตีกันอีกครั้งหลังสิ้นสุดระยะเวลาข้อตกลงหยุดยิง เนื่องจากก่อนที่การหยุดยิงจะเริ่มต้นในช่วง 0700 นาฬิกาของ 24 พ.ย.66 ที่เรียกว่าเป็น Zero Hour ทั้งสองฝ่ายยังโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการวางอาวุธ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะถอนกำลังหรือประกาศยอมแพ้ การโจมตีที่สำคัญ ได้แก่ การโจมตีโรงพยาบาล และโรงเรียนในฉนวนกาซา ปัจจุบันรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในฉนวนกาซาอยู่ที่ 14,800 คน