เห็นข่าวชิ้นเล็ก ๆ แต่ใหญ่เพราะเกี่ยวกับหมีตัวใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น โดยเฉพาะะหมีสีน้ำตาลตัวโตกว่า 500 กิโลกรัม ปรากฏว่าประชากรหมีบางพื้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในรอบ 10 ปี ไม่แค่นั้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลต่อสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากขึ้นสำหรับหมี เมื่อต้องอด ๆ อยาก ๆ หมีก็เข้ามาหาอาหารในเมืองเกิดการเผชิญหน้ากับคน ผลก็คือเฉพาะปีนี้ปีเดียวหมีฆ่าคนไปแล้ว 6 คน บาดเจ็บอีกกว่า 200 บางรายถูกกัดกินอย่างสยดสยอง แต่หากมองจากฝั่งคน ข้อมูลดูจะเลวร้ายกว่านั้น สถิติของรัฐบาลญี่ปุ่นในรอบ 5 ปีบอกว่าหมีถูกฆ่าไปเฉลี่ยปีละ 4,895 ตัว และปีนี้หมีน่าจะถูกฆ่าถึง 8,000 ตัว ข้อมูลที่น่าตกใจแบบนี้สำหรับคนญี่ปุ่นที่เชื่อในวิถีชีวิตที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติก็คงไม่ง่ายนักที่จะบริหารจัดการแม้ว่าฝ่ายอนุรักษ์จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาทางให้คนกับหมีอยู่ร่วมกันได้
เอาเรื่องราวแบบนี้มาเล่า ก็ไม่ใช่อะไร เห็นคนไทยชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นกันหนักมาก โดยเฉพาะพวกชอบเที่ยวตามธรรมชาติป่าเขาระมัดระวังกันหน่อยก็ดี ตรงไหนที่เขามีป้ายเตือน อ่านไม่ออกก็สังเกตรูปหมีไว้ อยู่เมืองไทยหรือที่ไหน ๆ ก็มีปัญหาคล้าย ๆ กัน สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลต่อการดำรงชีพของสัตว์ป่า ช้างไทยก็ประสบปัญหาเดียวกันต้องลงเขามาหาอาหารในเขตพักอาศัยของคน คงไม่ใช่การเบียดเบียนกันแต่เป็นวิถีชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด “คน” ซึ่งมีอารยะก็ต้องเป็นฝ่ายคิดมากกว่าเพื่ออยู่ร่วมกันไปอย่างสันติ … หลัง ๆ มามีข่าวช้างป่าเข้ามาใกล้ชิดคนมากขึ้น แต่ช้างไทยก็น่าจะใจดีกว่าหมีญี่ปุ่นนะ
#หมี #ญี่ปุ่น #ช้างไทย #หมีดุ #ช้างไทยใจดี #เมืองไทยน่าเที่ยว #รักเมืองไทย #
Credit : TB-TALK Facebook
