สหรัฐฯ กาตาร์และอียิปต์เปิดเผยต่อสื่อมวลชนเมื่อ 7 ก.พ.67 ว่า กลุ่มฮะมาสมีท่าทีตอบรับร่างข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวฉบับใหม่ เพื่อยุติการปะทะในฉนวนกาซา ซึ่งยืดเยื้อมาแล้ว 4 เดือน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และกาตาร์เชื่อว่าจะต้องมีการเจรจารายละเอียดเพิ่มเติม จึงจะต้องใช้เวลา และคาดว่าอิสราเอลจะพิจารณารายละเอียดข้อตกลงหยุดยิงโดยละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มฮะมาสฉวยโอกาสเพื่อลำเลียงอาวุธ หรือหลบหนีออกจากฉนวนกาซา
ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาในข้อตกลงดังกล่าว ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายประเมินว่าข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวครั้งใหม่จะให้เวลากลุ่มฮะมาสและอิสราเอลแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างกันเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ คาดว่ากลุ่มฮะมาสมีตัวประกันอยู่ในการควบคุมอีก 136 คน ซึ่งอิสราเอลประเมินว่าตัวประกันจำนวน 31 คนในกลุ่มตังกล่าว เสียชีวิตแล้ว
ขณะเดียวกันนี้ กองทัพอิสราเอลยังเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซา โดยมีรายงานการโจมตีและบุกค้นโรงพยาบาลหลายแห่งในพื้นที่ ทำให้องค์กรสหประชาชาติกังวลว่าปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้บริการในโรงพยาบาลต่าง ๆ สำหรับพื้นที่ที่มีการโจมตีรุนแรง คือ ตอนใต้ของฉนวนกาซา ได้แก่ Khan Younis และ Rafah ปัจจุบันจำนวนชาวปาเลสไตน์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อยู่ที่ประมาณ 27,500 ราย
กองทัพอิสราเอลยังโจมตีกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่อื่น ๆ นอกฉนวนกาซา เช่น ซีเรีย เป้าหมายเพื่อทำลายขีดความสามารถของกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล
สื่อต่างประเทศให้ความสนใจบทบาทของ รมว.กต.สหรัฐฯ ที่ไปเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อเจรจาและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเป็นการเยือนครั้งที่ 5 ตั้งแต่มีสถานการณ์ในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ประเมินว่าสหรัฐฯ จะไม่ประสบความสำเร็จในการแสดงบทบาทนำในครั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีสนับสนุนอิสราเอล ซ้ำยังปฏิบัติการตอบโต้กองกำลังต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวในภูมิภาค เสี่ยงทำให้ความขัดแย้งขยายตัว เฉพาะอย่างยิ่งจากการที่สหรัฐฯ ตอบโต้กองกำลังในอิรักและซีเรีย ที่โจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในจอร์แดน