อิสราเอลยื่นเงื่อนไขเพื่อให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันที่อยู่ในการควบคุมในฉนวนกาซา แลกกับการยุติปฏิบัติการทหารในเมือง Rafah โดยประกาศเมื่อ 19 ก.พ.67 ให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดภายในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งจะเริ่มต้นใน 10 มี.ค.67 ไม่เช่นนั้นกองทัพอิสราเอลจะไม่ยุติปฏิบัติการทางทหารและการโจมตีทางอากาศในเมือง Rafah ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา รวมทั้งอาจปฏิบัติการภาคพื้นดินด้วย ท่าทีดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าอิสราเอลพยายามลดความขัดแย้งกับนานาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับการโจมตีในเมือง Rafah โดยเฉพาะสหรัฐฯ เนื่องจากมีพลเรือนชาวปาเลสไตน์ได้รับผลกระทบจำนวนมาก จึงหลบหนีสภาวะสงครามไม่ทัน ปัจจุบันจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากกว่า 29,000 คน
อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังเดินหน้าการโจมตีในพื้นที่อื่น ๆ ของฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง เช่น เมือง Khan Younis ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา เนื่องจากอิสราเอลเชื่อว่าทั้ง 2 พื้นที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮะมาส รวมทั้งเป็นพื้นที่ควบคุมตัวประกัน จึงเน้นการโจมตีกดดันในพื้นที่นี้
นักวิเคราะห์ยังคาดว่า อิสราเอลจะใช้ช่วงเวลาเดือนรอมฏอน ซึ่งเป็นเวลาสำคัญของชาวมุสลิม กดดันกลุ่มฮะมาสให้ปล่อยตัวประกัน เพื่อให้ครอบครัวตัวประกันยอมรัยการจัดการของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮะมาสยังไม่ตอบสนองต่อข้อเสนอนี้ คาดว่า กลุ่มฮะมาสอาจไม่ตอบรับ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ยืนยันให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทหารก่อน จึงจะมีการปล่อยตัวประกัน จำนวนประมาณ 130 คน ส่วนมากมีสัญชาติอิสราเอล นอกจากนี้ แม้ว่ากลุ่มฮะมาสจะปล่อยตัวประกัน แต่ผู้นำอิสราเอลยังไม่เปลี่ยนแปลงเป้าหมายการกวาดล้างกลุ่มฮะมาส เพื่อให้ได้ชัยชนะเบ็ดเสร็จจากสงครามครั้งนี้
ช่วงรอมฎอนถือว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญและอ่อนไหวสำหรับสถานการณ์ความมั่นคงในฉนวนกาซา เนื่องจากมักจะเกิดเหตุการปะทะหรือการจลาจลบริเวณมัสยิด Al Aqsa อยู่เป็นระยะ ๆ เพราะถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและการเมืองของทั้งชาวปาเลสไตน์และอิสราเอล คาดว่าในปีนี้ อิสราเอลจะยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
พื้นที่ขัดแย้งนอกจากฉนวนกาซาที่น่ากังวลในปัจจุบัน คือ พรมแดนอิสราเอล-เลบานอน โดยอิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนหลายครั้ง ขณะที่สถานการณ์ในทะเลแดงก็ยังน่าห่วงกังวล เนื่องจากกลุ่มฮูษีในเยเมนยังโจมตีเรือขนส่งสินค้า รวมทั้งเรือของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มฮูษียิโดรนของสหรัฐฯ ตกด้วย