สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อ 21 ก.พ.67 ว่า รัฐบาลเมียนมาเดินหน้าผลักดันกฎหมายการเกณฑ์ทหาร (People’s Military Service Law) ที่ประกาศใช้เมื่อ 10 ก.พ.67 โดยเริ่มแจกจ่ายแผ่นพับประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ กับทั้งมีเอกสารรั่วไหลออกมาว่าอยู่ระหว่างจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เข้ารับการเกณฑ์ทหารที่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเนปีดอและภาคย่างกุ้ง การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนหวาดกลัวการถูกเรียกเกณฑ์ทหารและหาทางออกนอกประเทศเพิ่มขึ้น เป้าหมายหลักคือไทย ซึ่งพบว่าชาวเมียนมายื่นคำร้องขอวีซ่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจนต้องจำกัดจำนวนผู้เข้ารับบริการอยู่ที่วันละ 400 คน
ขณะที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยคัดค้านกฎหมายดังกล่าวและมองว่าจะยิ่งกระตุ้นให้ความขัดแย้งในเมียนมารุนแรงขึ้น โดยสหภาพแห่งชนชาติกะเหรี่ยง เห็นว่ากฎหมายนี้ใช้ผิดวัตถุประสงค์ เพราะเรียกเกณฑ์พลเพื่อทำสงครามในประเทศแทนที่จะใช้ปกป้องประเทศจากภัยคุกคามภายนอก ส่วนสภากอบกู้รัฐฉาน เรียกเกณฑ์พลอายุระหว่าง 18-45 ปี เพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการสู้รบ
อนึ่ง กฎหมายการเกณฑ์ทหารบังคับใช้กับพลเมืองชายอายุระหว่าง 18-35 ปี และหญิงอายุระหว่าง 18-27 ปี กับทั้งบ่งชี้ว่ากองทัพเมียนมากำลังขาดแคลนกำลังพล หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อต้น ก.พ.67 ได้เรียกเกณฑ์ทหารผ่านศึกให้กลับเข้าประจำการในแนวหน้า