ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมทั่วโลกเริ่มต้นช่วงเดือนถือศีลอด หรือเดือนรอมฎอน โดยกล่าวถึงความจำเป็นที่นานาชาติจะต้องช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในฉนวนกาซา รวมทั้งมีส่วนร่วมในการยุติความรุนแรงในพื้นที่ ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ในฉนวนกาซายังไม่ยุติและยังไม่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 31,000 คน และมีรางานว่าชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เผชิญวิกฤตด้านขาดแคลนอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์อย่างมาก
มีรายงานว่าหน่วยความมั่นคงและกองทัพอิสราเอลปฏิบัติการลาดตระเวนในเขตเวสต์แบงก์ เพื่อต่อต้านการก่อการร้าย หลังจากมีเหตุระเบิดด้วยอุปกรณ์แสวงเครื่องเมื่อ 8 มีนาคม 2567 โดยเข้าจับกุมผู้ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการวางแผนก่อการร้ายและกลุ่มฮะมาส ประมาณ 1,500 คน
สหรัฐฯ ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังตะวันออกกลางเพิ่มเติมผ่านเรือรบ Gen Frank S. Besson โดยคาดว่าสหรัฐฯ จะทยอยส่งความช่วยเหลือด้านนุษยธรรมให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาผ่านทางเรือต่อไป โดยจะลำเลียงความช่วยเหลือผ่านท่าเรือในไซปรัส เพื่อส่งความช่วยเหลือต่อไปยังฉนวนกาซา โดยได้รับความร่วมมือจากสหภาพยุโรป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และองค์กรพัฒนาภาคเอกชน หรือ NGO ของสเปน คือ Open Arms ซึ่งจะส่งเรือพร้อมความช่วยเหลือจำนวน 200 ตันไปยังตอนเหนือของฉนวนกาซา ปัจจุบันไซปรัสเป็นประเทศยุโรปที่อยู่ใกล้ฉนวนกาซามากที่สุด ห่างกันประมาณ 380 กิโลเมตร และมีท่าเรือ Larnaca เป็นจุดสำคัญในการดำเนินการเรื่องนี้
การปะทะระหว่างกลุ่มฮูษีในเยเมนกับกองเรือของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศสยังตึงเครียดต่อเนื่อง โดยมีการสกัดกั้นโดรนของกลุมฮูษี การโจมตีเรือรบของฝ่ายพันธมิตรตะวันตก และการโจมตีเรือขนส่งสินค้าจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจเป็นปัจจัยเพิ่มความขัดแย้งในพื้นที่ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิต ทำให้บริษัทขนส่งพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางในทะเลแดง
