หลังจากสูญเสียพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือให้กับกลุ่มชาติพันธุ์พันธมิตร 3 พี่น้องไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็เสียพื้นที่บางส่วนในยะไข่ ชิน คะฉิ่น คะยา และล่าสุดมาเสียพื้นที่เมียวดีรัฐกะเหรี่ยงติดกับอำเภอแม่สอดของไทย สถานการณ์ทำท่าจะลุกลามเอาไม่อยู่สำหรับกองทัพพม่า
โดยปกติพม่าวางกำลัง 3 กองพันประจำพื้นที่เมียวดีคือพันเคลื่อนที่เร็ว 355 356 และ357 มีกองบัญชาการควบคุมทางยุทธวิธีอยู่แถวๆ บ้านปางกาน ประมาณ 15 ก.ม จากชายแดนแม่สอดลึกเข้าไปในเมียวดี ส่วนอีก 1 กองพันที่ 275 ให้ควบคุมเส้นทาง AH 1 ติดต่อกับย่างกุ้งตั้งฐานอยู่ที่บ้านติงกานยีหน่อง แต่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 3 กองพันประจำพื้นที่โดนทหารกะเหรี่ยง KNU ตีแตกหมดแม้ ทอ.พม่าส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดช่วยก็ไม่เป็นผลเพราะสภาพพื้นที่เป็นป่าเขาต้องใช้ทหารราบเท่านั้น ล่าสุดทหาร KNU ก็ประกาศยอมรับการมอบตัวของกองพัน 275 พร้อมกับอาวุธด้วยจำนวนหนึ่ง มีการเจรจาส่งเครื่องบินมารับเจ้าหน้าที่พม่ากับสิ่งของกลับไป 1 เที่ยวแล้วเมื่อคืนวันที่ 7 เมษายนนี่เอง
ขณะนี้ถือว่าพม่าสูญเสียการควบคุมพื้นที่เมียวดีไปแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจส่งผลต่อการ “อยู่” หรือ “ไป” ของรัฐบาลทหารในปัจจุบัน เนื่องจากเมียวดีและรัฐกะเหรี่ยงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของพม่า แม้ว่าในความเป็นจริง พม่าไม่สามารถเข้ามาปกครองดูแลได้อย่างเต็มที่มานานแล้วแต่ก็ได้มอบให้กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ซึ่งก็คืออดีตกะเหรี่ยง DKBA ดูแลเก็บผลประโยชน์ทุกอย่างในพื้นที่ที่ผ่านทางช่องทางท่าข้าม รวมทั้งพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กทั้งหลายของกลุ่มคนจีน ส่วนพม่านั้นเก็บเฉพาะภาษีสินค้าที่ผ่านสะพานมิตรภาพฯ อย่างถูกต้อง แต่การสูญเสียเมียวดีเหมือนกับการถูกปิดประตูเข้าออกอันเป็นสัญลักษณ์ของประเทศที่เป็นเอกราชซึ่งถ้าหากกะเหรี่ยงเปลี่ยนเอาธงพม่าลงแล้วเอาธงรัฐกะเหรี่ยงขึ้น อาจเป็นเรื่องยากกว่าที่พม่าจะตีเอาพื้นที่กลับคืนได้
ก่อนจะถูกโจมตีที่เมียวดี เมื่อสัปดาห์ก่อน ในวันกองทัพพม่าที่ปกติต้องมีการสวนสนามของทหาร ปรากฏว่าก็ถูกกองกำลังประชาชนฝ่ายต่อต้าน PDF ท้าทายด้วยการส่งโดรนโจมตีเกือบ 30 ลำเข้าไปโจมตีทางวิ่งสนามบินทหาร อาคารกองบัญชาการกองทัพบก ได้รับความเสียหาย
การที่ทหารพม่าในเมียวดีถูกโจมตีพ่ายแพ้เพราะกองกำลังกะเหรี่ยง KNU ไม่เพียงแต่จับมือกับกองกำลังประชาชนฝ่ายต่อต้าน PDF เท่านั้น กำลังของ BGF หรืออดีตกะเหรี่ยง DKBA ก็หันกลับไปเป็นพันธมิตรกับ KNU ทำให้ฝ่ายต่อต้านมีความแข็งแกร่งจนพม่าต้านไม่ไหว แต่หลังจากพม่ายอมแพ้แล้ว BGF ภายใต้การนำของหม่องชิตตู่นี่แหล่ัะที่ส่งรถไปรับทหารพม่าแตกทัพกว่า 400 คนมาดูแลอยู่ที่บ้านก๊กโก่ที่มั่นของตัวเอง ดังนั้นต้องรอดูสถานการณ์จากนี้ไปอีก 1-2 วัน ว่าเมื่อขนคนและของออกจากเมียวดีแล้วพม่าจะส่งกำลังทางอากาศมาถล่มเอาคืนหรือไม่ แล้วทหารพม่าที่หม่องชิตตู่ดูแลอยู่จะเอายังไงต่อ ออกไปรบต่อ หรือแปรสภาพเป็นกำลังของ BGF ไปเลย
สิ่งที่น่ากังวลคือการเติบโตของกองกำลัง BGF ที่คุมทั้งพื้นที่และธุรกิจของกลุ่มจีนเทาในฝั่งพม่าติดกับไทย จัดว่าเป็นกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นที่ไม่มีอำนาจรัฐใดควบคุมได้ทั้งบ่อนพนัน ยาเสพติด คอลเซนเตอร์ แม้แต่จีนที่ว่าแน่ก็คงเรียกได้แค่ทหารพม่ากับพวกโกกั้งมาปรามเพื่อจับตัวหัวโจกแก้งค์ 4 ตระกูลที่เมืองเล้าไก่ย์ได้ แต่สำหรับจุดนี้จะเข้าไม่ถึงและวันหนึ่งเมื่อธุรกิจกาสิโนถูกทำให้ถูกกฎหมายในไทยวันนั้นธุรกิจ สีเทาที่มาจ่อๆ อยู่หน้าประตูบ้านก็จะล้นทะลักเข้ามาทันทีทางแม่สอดก่อนอันดับแรก วันนี้เขาก็สร้างเตรียม ๆ กันไว้บ้างแล้ว
ขณะนี้ในประเทศพม่ามีผู้พลัดถิ่นภายในประเทศตามตัวเลขของสหประชาชาติประมาณ 2,600,000 คน การอพยพโยกย้ายเกิดจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ แต่ถ้าหากมีการสู้รบบริเวณชายแดนก็จะมีผู้หนีภัยจากการสู้รบหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านรวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยเฉพาะถ้าฝ่ายพม่าชนะก็จะมีมาก ถ้ากะเหรี่ยงชนะก็แทบไม่มี ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ประเทศไทยไม่อาจนิ่งเฉย หรือปฏิเสธความช่วยเหลือแต่การดำเนินการใดๆ ก็ต้องทำในนามและภายใต้การรับรู้ร่วมกันของอาเซียนเนื่องจากปัญหาผู้อพยพเหล่านี้ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันตามข้อตกลงอาเซียนเพียงแต่ไทยเป็นประเทศที่ต้องออกหน้าและได้รับผลกระทบมากกว่าคนอื่น
Credit TB-Talk