อิสราเอล…ไหวมั้ย ? ก่อเรื่องใหญ่ ๆ พร้อมกันทีเดียว 2 เรื่อง ครั้งแรกถล่มรถยนต์ขององค์กรครัวโลก World Central Kitchen หรือ WCK ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไปถึง 7 ราย เป็นข่าวดังไปทั่วโลกเพราะคนเหล่านี้เป็นอาสาสมัครไปช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่กำลังจะอดตายอีกทั้งยังเป็นคนสัญชาติตะวันตกเป็นส่วนใหญ่เล่นเอานายกเนทันยาฮูต้องออกมาขอโทษกับความผิดพลาดที่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจพร้อมกับรับปากจะสืบสวนความผิดที่เกิดขึ้น
อีกครั้งหนึ่งคือการถล่มอาคารสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้กันเนื่องจากการโจมตีแบบนี้ผิดอนุสัญญาเวียนนาอีกทั้งยังทำให้นายทหารอิหร่านเสียชีวิตจำนวนหนึ่งซึ่งก็แน่นอนว่างานนี้อิหร่านต้องประกาศทันทีว่าจะมีการล้างแค้นเอาคืน ทั้งสองกรณีทำให้อิสราเอลตกที่นั่งลำบากด้านหนึ่งถูกโลกประณามอีกด้านหนึ่งอาจถูกโจมตีให้ต้องสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้งในเร็วๆ นี้
หลังจากถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกเข้าโจมตีเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 สังหารชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติเสียชีวิตไปประมาณ 1,200 คน พร้อมกับจับตัวประกันไปอีกประมาณ 250 คน อิสราเอลก็ตอบโต้ด้วยการโจมตีกาซ่าทางอากาศทันทีแล้วตามด้วยการส่งกำลังทหารเข้ายึดพื้นที่ทางบกโดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายโครงสร้างของกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก จนถึงปัจจุบันมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 32,000 คนตามตัวเลขของฝ่ายฮามาสแต่อิสราเอลก็ยังไม่ยุติการปฏิบัติการ มิหนำซ้ำยังปิดล้อมความช่วยเหลือทุกอย่างจากโลกภายนอก ท่ามกลางแรงกดดันจากทุกฝ่ายแม้แต่สหรัฐและ UN ที่เรียกร้องให้เปิดทางให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมผ่านเข้าไปในกาซ่าก่อนที่ชาวปาเลสไตน์เป็นแสนๆ คนจะอดตาย แต่ระหว่างที่มีการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่กาซ่าอิสราเอลก็โจมตีที่มั่นของกลุ่มเฮซบอลล่าห์บริเวณชายแดนด้านทิศเหนือทั้งในเลบานอนและซีเรียคู่ขนานกันไปด้วย
มาไล่เรียงดูกันทีละเหตุการณ์ กรณีขององค์กร WCK พบว่าขณะที่ถูกโจมตีเป็นเวลากลางคืน หลังจากที่โหลดสิ่งของความช่วยเหลือที่มาทางทะเล 1 ตันขึ้นบกแล้วขบวนรถของ WCK 3 คันก็วิ่งตามกันห่างๆ ตามถนนเลียบชายทะเลที่ได้ประสานกองทัพอิสราเอลไว้ล่วงหน้าแล้วแต่ก็ยังถูกกระสุนจรวดที่ยังไม่ทราบที่มาเจาะลงกลางหลังคารถแล้วระเบิดทีละคันเป็นเหตุให้คนในรถเสียชีวิต กรณีนี้กองทัพอิสราเอลอ้างว่าเป็นความผิดพลาดที่ขาดเจตนา
ส่วนการถล่มอาคารสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัสของอิสราเอลเป็นเหตุให้นายทหารอิหร่านเสียชีวิต 7 คน ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นระดับผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์อิสลาม หรือ IRGC ในซีเรียและเลบานอน สถานที่เกิดเหตุเป็นอาคารส่วนแยกของสถานกงสุลซึ่งกลุ่มผู้เสียชีวิตเป็นทหารที่มีบทบาทในการประสานงานระหว่างกองกำลัง IRGC ของอิหร่านกับเฮซบอลล่าห์ของเลบานอนและซีเรียซึ่งไม่ใช่นักการทูตแต่ไปรวมตัวกันอยู่ในสถานกงสุลอิหร่านร่วมกับเจ้าหน้าที่ของซีเรียและเฮซบอลล่าห์ที่เสียชีวิตไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เนื่องจากเป็นการโจมตีสถานที่ทางการทูตอีกทั้งมีนายทหารระดับสูงเสียชีวิตซึ่งอิหร่านต้องตอบโต้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะเป็นรูปแบบไหนและเมื่อใดเท่านั้นเอง
หลังจากที่นายพลกอเซม โซไลมาน ผู้บัญชาการกองกำลังอัลกุดส์ IRGC ถูกโดรนสังหารของสหรัฐโจมตีขบวนรถเสียชีวิตที่อิรักเมื่อปี 2563 อิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการยิงจรวดมิสซายถล่มฐานทหารสหรัฐในอิรักในอีก 5 วันถัดมา แต่สำหรับครั้งนี้อิหร่านเป็นฝ่ายได้เปรียบเนื่องจากโลกไม่เห็นด้วยและประณามการกระทำของอิสราเอลดังนั้นหากอิหร่านตอบโต้เองจะไม่เป็นผลดี จึงเชื่อว่าแทนที่จะโจมตีโดยตรงจะมีการใช้ตัวแทนในการโจมตีผลประโยชน์ของอิสราเอลแทนซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเฮซบอลล่าห์ ฮามาส หรือแม้แต่กลุ่มฮูตีในเยเมนซึ่งผลประโยชน์ของอิสราเอลนั้นมีอยู่ทั่วโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีได้ง่าย
ไม่ว่าสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาส หรือกับเฮซบอลล่าห์ คือการทำสงครามตัวแทนกับอิหร่านที่เข้มข้นขึ้นและต่อนี้ไปการต่อสู้ด้วยวิธีรบนอกแบบหรือการก่อการร้ายจะถูกนำกลับมาใช้อีกกับเป้าหมายที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกในทุกประเทศ
สำหรับในไทยไม่ใช่ว่าไม่เคยมีปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายอิสราเอลในไทย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2537 ชุดปฏิบัติการของผู้ก่อการร้ายได้เข้ามาสำรวจสถานที่และวางแผนใช้รถบรรทุกระเบิดสถานทูตอิสราเอลในกรุงเทพ แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเสียก่อนทำให้ผู้ก่อการร้ายยกเลิกแผนแล้วหลบหนีออกไป
อีกครั้งหนึ่งเมื่อปี 2555 ผู้ก่อการร้ายวางแผนสังหารนักการทูตอิสราเอลบนถนนในกรุงเทพแต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผนและมาเกิดอุบัติเหตุทีหลังทำให้งานไม่สำเร็จ แสดงให้เห็นว่าความมุ่งหมายนั้นมีอยู่เพียงแต่ทำงานไม่สำเร็จเท่านั้นเอง แผนเก่าๆ จะถูกนำกลับมาปัดฝุ่นใช้ใหม่ย่อมทำได้ จากนี้ไปจึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นหูตา ทำงานให้หนักขึ้นแบบไม่มีช่องว่างให้เกิดเหตุไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้
Credit TB-Talk