ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากอิหร่านปฏิบัติการ Honest Promise เมื่อ 13-14 เม.ย.67 เพื่อแก้แค้นอิสราเอลที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานที่ปฏิบัติราชการของอิหร่านในซีเรียเมื่อต้น เม.ย.67 ส่งผลให้อิสราเอลได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่เป็นครั้งแรกที่อิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรง จึงประกาศว่าจะตอบโต้อิหร่านคืนเร็ว ๆ นี้ ท่าทีดังกล่าวทำให้นานาชาติวิตกว่าปฏิบัติการทหารของทั้ง 2 ฝ่ายจะขยายตัวเป็นสงครามใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากต่างฝ่ายต่างมียุทโธปกรณ์ล้ำสมัย มีกองกำลังทหารที่มีขีดความสามารถสูง และมีข่าวกรองที่เพียงพอต่อการปฏิบัติการต่อฝ่ายตรงข้าม
มีความเป็นไปได้สูงที่อิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านจริง และจะดำเนินการเร็ว ๆ นี้ พิจารณาจากการที่ยอมเลื่อนแผนการบุกโจมตีเมือง Rafah เพื่อปราบปรามกลุ่มฮะมาส เพราะคณะรัฐมนตรีอิสราเอลหันไปให้ความสำคัญเร่งด่วนกับแผนการตอบโต้อิหร่านก่อน อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแผนการตอบโต้อิหร่าน คาดว่าอยู่ระหว่างเตรียมการให้เหมาะสมทั้งด้านปฏิบัติการทางหทารในเชิงรุกและเชิงรับ การดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการใช้แนวทางอื่น ๆ เพื่อลดผลกระทบ หากความขัดแย้งขยายตัวไปมากกว่าเดิม
ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านไม่ได้ทำให้ปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซายุติลง มีรายงานความเสียหายและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจำนวนผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาอยู่ที่ประมาณ 33,000 คน ด้านความคืบหน้าการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวมีน้อยมาก แม้จะมีการพูดคุยแต่ไม่บรรลุเงื่อนไขร่วมกัน ล่าสุด อิสราเอลไม่พอใจที่กลุ่มฮะมาสจะปล่อยตัวประกันที่เป็นสตรี ผู้สูงอายุ และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน เพราะอิสราเอลคาดหวังให้ปล่อยตัวมากกว่านั้น ทำให้ยังไม่มีสัญญาณว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ในเร็ว ๆ นี้
นอกจากในพื้นที่ฉนวนกาซา อิสราเอลยังปะทะกับกลุ่มฮิซบุลเลาะฮ์ในเลบานอน ซึ่งยังยืนยันว่าจะโจมตีอิสราเอลอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหยุดการรุกรานฉนวนกาซาและทำร้ายชาวปาเลสไตน์ มีรายงานว่าตั้งแต่ 8 ต.ค.66 อิสราเอลกับกลุ่มฮิซบุลเลาะฮ์ปะทะกันไปแล้วมากกว่า 4,700 ครั้ง ส่วนมากเป็นการโจมตีจากอิสราเอลด้วยปืนใหญ่และขีปนาวุธ ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 400 คน ประเด็นที่น่ากังวลจากการต่อสู้ในพื้นที่นี้ คือ ปัญหาบุคคลพลัดถิ่นเนื่องจากภาวะสงคราม โดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) เปิดเผยจำนวนผู้พลัดถิ่นจากเหตุการณ์นี้อยู่ที่ประมาณ 90,000 ราย