อิสราเอลเดินหน้าการโจมตีในฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง แม้นานาชาติจะคัดค้าน โดยมีรายงานเมื่อ 28 เม.ย.67 ว่ากองทัพอิสราเอลปฏิบัติการทางอากาศต่อเมือง Rafah และ Gaza City ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจำนวนมาก รวมจำนวนมากกว่า 34,000 คน พร้อมกันนี้ มีรายงานว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court-ICC) อยู่ระหว่างพิจารณาออกหมายจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอล รวมทั้ง นรม.เบนจามิน เนทันยาฮู ข้อหาก่ออาชญากรรม เนื่องจากทำสงครามที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนในฉนวนกาซา และเขตเวตส์แบงก์ ตลอดจนขัดขวางการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติ คาดว่ารัฐบาลอิสราเอลจะไม่ยอมรับคำตัดสินของ ICC รวมทั้งข้อหาที่กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) กรณีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาด้วย ทั้งนี้ ICC ดำเนินข้อหาต่อบุคคล ส่วน ICJ ดำเนินข้อหาต่อประเทศหรือรัฐ
กลุ่มฮะมาสแสดงออกว่าสนับสนุนการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว โดยเปิดเผยภาพตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่ ต.ค.66 และส่งผู้แทนระดับสูงเยือนอียิปต์เพื่อเข้าร่วมการพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนไขในการทำข้อตกลงหยุดยิง ร่วมกับผู้แทนจากกาตาร์ ด้านประธานาธิบดีปาเลสไตน์เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ โน้มน้าวอิสราเอลให้ยุติการโจมตีเมือง Rafah เนื่องจากมีผู้อพยพอาศัยอยู่จำนวนมาก ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเดียวกันกับที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนภูมิภาคตะวันออกกลาง คาดว่าจะได้พบกับประธานาธิบดี Mahmoud Abbas ของปาเลสไตน์ ระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบียด้วย
ความเสียหายจากสถานการณ์ความขัดแย้งรอบนี้อาจใช้เวลานานถึง 14 ปีในการฟื้นฟูฉนวนกาซา โดยสหประชาชาติเตือนเมื่อ 26 เม.ย.67 ว่าสงครามครั้งนี้ได้ทำลายอาคาร บ้านเรือน สิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก รวมทั้งยังไม่สามารถประเมินได้ว่า ชาวปาเลสไตน์จะเดินทางกลับไปตั้งถิ่นฐานในภูมิลำเนาเดิมได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ เพราะมีการวางกับระเบิดในหลายพื้นที่ รวมทั้งยังเผชิญอันตรายจากซากอาคารและโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายจากสงครามครั้งนี้
สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญความท้าทายอย่างมากในการควบคุมสถานการณ์ประท้วงเรียกร้องสิทธิให้ชาวปาเลสไตน์ และกลุ่มที่ต่อต้านการทำสงคราม ซึ่งผู้ประท้วงขยายตัวและมีแนวโน้มจะปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรุนแรงขึ้นในสถาบันการศึกษา ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ควบคุมตัวผู้ประท้วงแล้วประมาณ 900 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ในสถาบันศึกษาที่ไม่เห็นด้วยกับการทำสงครามในฉนวนกาซา ผู้ประท้วงบางส่วนเริ่มตั้งแคมป์เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองในระยะยาว นอกจากนี้ ปัจจุบันเริ่มมีรายงานกรณีเจ้าหน้าที่และพนักงานบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับสูงของสหรัฐฯ หลายแห่ง เช่น บริษัท Google และบริษัท Amazon คัดค้านที่บริษัทและสหรัฐฯ ทำโครงการ Project Nimbus ร่วมกับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลเพื่อปราบปรามและทำสงครามกับชาวปาเลสไตน์ จึงประท้วงด้วยการหยุดงาน แต่แรงกดดันดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอให้รัฐบาลสหรัฐฯ เปลี่ยนนโยบายเร็ว ๆ นี้