การปฏิบัติการทางทหารของกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซายังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงชั่วคราวที่อียิปต์ โดยกองทัพอิสราเอลเริ่มการบุกโจมตีเมือง Rafah อย่างแข็งกร้าว ส่งผลกระทบต่อชาวปาเลสไตน์จำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ แม้จะมีประกาศแจ้งเตือนก่อนการโจมตี แต่คาดว่าไม่ทันเวลา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 34,600 คน
แนวโน้มการโจมตีในฉนวนกาซาจะตึงเครียดขึ้น เนื่องจากกลุ่มฮะมาสยังคงสามารถใช้ขีปนาวุธและจรวดซุ่มโจมตีกองทัพอิสราเอลได้เป็นระยะ ๆ ทำให้กองทัพอิสราเอลโกรธแค้นและตอบโต้คืน ด้านการเจรจาที่อียิปต์ยังไม่บรรลุผล เพราะสถานการณ์ในเมือง Rafah เป็นจุดขัดแย้งสำคัญระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ผู้แทนกลุ่มฮะมาสเดินทางกลับจากอียิปต์แล้ว ยังไม่มีท่าทีว่าจะตอบรับข้อเสนอและเงื่อนไขของอิสราเอล เพราะไม่ได้เป็นผลดีต่อชาวปาเลสไตน์และสถานการณ์ในฉนวนกาซา
สำนักข่าว Al Jazeera ของกาตาร์ เผชิญความท้าทายจากกรณีอิสราเอลสั่งปิดทำการสำนักงานที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม โดยใช้เหตุผลว่าความเคลื่อนไหวของสำนักข่าว Al Jazeera เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่ชาติ จึงสั่งระงับความเคลื่อนไหวและห้ามการเผยแพร่ข่าวสารภายในอิสราเอล และเมื่อ 6 พ.ค. 67 มีรายงานว่า อิสราเอลได้สั่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเข้าตรวจค้นอาคารที่เชื่อว่าสำนักข่าว Al Jazeera ไปปฏิบัติงานอยู่ด้วย ซึ่งกรณีนี้ สำนักข่าวดังกล่าวประณามการดำเนินการของอิสราเอล โดยเห็นว่าเป็นการก่ออาชญากรรม และไม่เป็นผลดีต่อเสรีภาพของสื่อมวลชนที่ติดตามสถานการณ์สงครามในฉนวนกาซา ขณะที่รัฐบาลกาตาร์ยังไม่แสดงท่าทีต่อกรณีนี้
ประชาชนในหลายประเทศรวมตัวกันชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซา โดยมีการประท้วงที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ และตุรกี เนื่องจากวิตกว่าสงครามที่ยืดเยื้อและกำลังจะครบรอบ 7 เดือนจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางระยะยาวและสร้างวิกฤตด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้ หลายฝ่ายจับตาความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะขยายแนวรบไปที่พรมแดนอิสราเอล-เลบานอนด้วย เนื่องจากมีรายงานการโจมตีและปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนอย่างต่อเนื่อง ขยายพื้นที่จากบริเวณตอนใต้ของเลบานอนไปยังภาคตะวันออก