ความรุนแรงจากการปะทะระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮะมาส และกองกำลังสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาตึงเครียดต่อเนื่อง ยังไม่มีแนวโน้มจะยุติโดยเร็ว มีรายงานเมื่อ 14 พ.ค.67 ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มมากกว่า 35,000 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 76,000 คน ส่วนมากเป็นผลจากการโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธของกองทัพอิสราเอล ที่ปัจจุบันขยายปฏิบัติการโจมตีทั่วพื้นที่ รวมทั้งในค่ายผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์ที่เป็นพลเรือน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติและองค์กรให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไปด้วย เฉพาะอย่างยิ่งองค์กร UN agency for Palestinian refugees (UNRWA) ที่มีข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 188 คน ล่าสุดมีรายงานเจ้าหน้าที่ขององค์กรสหประชาชาติเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในฉนวนกาซา ซึ่งอิสราเอลระบุว่าเป็นพื้นที่ปฏิบัติการรบ นอกจากนี้ การโจมตีของอิสราเอลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดปัญหาผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กลุ่มต่อต้านอิสราเอลยังมีขีดความสามารถในการตอบโต้ แม้ในภาพรวมจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ โดยกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์สามารถโจมตีกองทัพอิสราเอลได้อยู่เรื่อย ๆ เมื่อ 14 พ.ค.67 มีรายงานว่ากองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์โจมตี 33 ครั้งต่อกองทัพอิสราเอลในพื้นที่ Jabalia ตอนเหนือของฉนวนกาซา สะท้อนว่ากองกำลังในพื้นที่ยังมีอาวุธมากพอที่จะสร้างอุปสรรคต่ออิสราเอลได้ ปัจจุบันกองกำลังในฉนวนกาซาที่ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีอิสราเอล ได้แก่ กลุ่มฮะมาส และกองกำลัง Palestinian Islamic Jihad
สถานการณ์ความรุนแรงและการปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธต่อต้านอิสราเอลกับกองทัพอิสราเอลในฉนวนกาซามีแนวโน้มยืดเยื้อ เนื่องจากการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวไม่มีความคืบหน้า ต่างฝ่ายต่างยังใช้การทหารโจมตีกันต่อเนื่อง นานาชาติไม่สามารถแทรกแซงการตัดสินใจของผู้นำอิสราเอลได้ และแม้รัฐบาลอิสราเอลจะเผชิญแรงกดดันจากครอบครัวตัวประกันให้เร่งช่วยเหลือ แต่ก็ยังยืนยันต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร เพื่อกวดล้างกลุ่มฮะมาสที่เป็นภัยคุกคามสำคัญของอิสราเอล
ปรากฏกระแสการเรียกร้องในสื่อสังคมออนไลน์ให้ผู้ที่มีชื่อเสียง (celebrity) เป็นกระบอกเสียงให้ยุติสงครามในอิสราเอล โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนหนึ่งมองว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์ ควรแสดงจุดยืนและเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนให้ทุกฝ่ายยุติสงคราม ขณะที่ผู้ที่ไม่แสดงความคิดเห็น อาจเผชิญแรงกดดัน โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางส่วนเริ่มรณรงค์ให้คว่ำบาตรออนไลน์ต่อผู้ที่ไม่เป็นกระบอกเสียงเรื่องนี้ หรือ #Blockout 2024 พุ่งเป้าไปที่ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียง และผู้มีอิทธิพลในสื่อสังคมออนไลน์ กระแส #Blockout 2024 สอดคล้องกับการชุมนุมประท้วงในหลายพื้นที่ทั่วโลกที่ต้องการให้คู้ขัดแย้งและนานาชาติยุติความรุนแรงในพื้นที่โดยเร็ว ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยจากสงคราม