นานาชาติยังคงพยายามเสนอแนวทางยุติความขัดแย้งและความสูญเสียในฉนวนกาซา ซึ่งดำเนินมานานเกือบ 8 เดือน สร้างความสูญเสียและความเสียหายในฉนวนกาซาอย่างมาก มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 36,000 ราย ปัจจุบันทั่วโลกติดตามท่าทีของอิสราเอลและกลุ่มฮะมาสอย่างใกล้ชิดว่าจะยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลหยุดยิง ที่ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ของสหรัฐฯ เป็นผู้นำเสนอเมื่อ 31 พ.ค.67 หรือไม่ ข้อตกลงดังกล่าวเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายลดระดับความตึงเครียดระหว่างกันผ่าน 3 ขั้นตอน ได้แก่ ระยะแรก ….การหยุดยิงชั่วคราวเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากพื้นที่ในฉนวนกาซา กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันที่เป็นสตรี และเปิดทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ส่วนในระยะที่สอง…อิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสจะเริ่มการเจรจาเพื่อยุติความตึงเครียดในระยะยาว โดยระหว่างที่มีการเจรจา ก็จะต้องปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงด้วย และในระยะที่สาม…จะมีการหยุดยิงถาวร (permanent ceasefire) รวมทั้งฟื้นฟูสภาพบ้านเมืองที่ได้รับความเสียหายจากสงครามครั้งนี้
สาเหตุที่ประธานาธิบดีไบเดนเสนอแผนดังกล่าวในห้วงเวลานี้ เพราะประเมินแล้วว่ากลุ่มฮะมาส ไม่มีขีดความสามารถที่จะก่อเหตุเหมือนเมื่อ 7 ต.ค.66 ได้อีก รวมทั้งกังวลกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำสหรัฐฯ ต้องการสร้างผลงานในเวทีระหว่างประเทศ ด้วยการเป็นผู้หยุดความขัดแย้งครั้งนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายปี 2567
กลุ่มฮะมาสมีมุมมองเชิงบวกต่อข้อเสนอดังกล่าว แต่ยังไม่ตอบรับ ขณะที่นักการเมืองอิสราเอลบางส่วน และครอบครัวตัวประกันก็สนับสนุนข้อเสนอนี้เช่นกัน โดยรัฐบาลอิสราเอลประกาศว่าอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอนี้อย่างถี่ถ้วน เพราะมีบางส่วนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ เพราะไม่มีการกล่าวถึงการปลดอาวุธกลุ่มฮะมาส ด้านเลขาธิการสหประชาชาติ สนับสนุนข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ในกรณีที่คู่ขัดแย้งรับข้อเสนอของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเป็นผลดีต่อการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นวิกฤต โดยเฉพาะจากการปฏิบัติการในเมืองราฟาห์ รวมทั้งลดแรงกดดันจากความเห็นต่างภายในอิสราเอล ที่กำลังเผชิญแรงต่อต้านจากกลุ่มที่ต้องการยุติสงครามด้วย อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่คู่ขัดแย้งจะไม่ยอมรับข้อเสนอ เพราะจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเมือง ความมั่นคงทางการทหาร และอำนาจต่อรองกับคู่ขัดแย้ง ดังนั้น ความขัดแย้งและการตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา อาจยังคงยืดเยื้อต่อไป รวมทั้งการปะทะระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนกลุ่มฮะมาสและกองทัพอิสราเอลทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง