สำนักข่าว South China Morning Post รายงานเมื่อ 1 ก.ค.67 อ้างรายงานสถาบันวิจัยด้านวิศวกรรมพลังงานทดแทน (China Renewable Energy Engineering Institute-CREEI) ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของสำนักงานพลังงานแห่งชาติ (National Energy Administration-NEA) ของจีนว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาด้านพลังทดแทนก่อนกำหนดประมาณ 6 ปี หากประสบความสำเร็จในการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 70 กิกะวัตต์ และแผงโซลาร์เซลล์ขนาดความจุ 190 กิกะวัตต์ ภายในปี 2567
โครงการดังกล่าวจะทำให้จีนมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 1,310 กิกะวัตต์ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนของรัฐบาลปี 2573 ที่ 1,200 กิกะวัตต์ (ข้อมูลของ NEA เมื่อปี 2566 ระบุว่าจีนมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนรวมทั้งสิ้น 1,050 กิกะวัตต์)
ทั้งนี้ เป้าหมายการพึ่งพาตนเองด้านพลังงานทำให้จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านพลังงานทดแทนมากขึ้น และทำให้อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์และพลังงานลมของจีนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กรณีดังกล่าวสร้างความกังวลต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดังกล่าว เนื่องจากอุปสงค์ค่อนข้างคงที่ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว