ความตึงเครียดจากการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซาเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เป็นผลจากการที่ทั้ง 2 ฝ่ายโจมตีผลประโยชน์ระหว่างกันในภูมิภาคตะวันออกกลาง เฉพาะอย่างยิ่งกรณีมีรายงานยืนยันจากอิสราเอลเมื่อ 1 ส.ค.67 ว่าประสบความสำเร็จในการสังหาร Mohammed Deif ผู้นำระดับสูงฝ่ายทหารของกลุ่มฮะมาส จากการปฏิบัติการในพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซา เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮะมาสยังไม่ยืนยันประเด็นนี้ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางการปฏิบัติการของกองกำลัง ที่ปัจจุบันยังเคลื่อนไหวตอบโต้กองทัพอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตอบโต้กรณีที่กลุ่มเชื่อว่า อิสราเอลลอบสังหาร Ismail Haniyeh ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮะมาสเมื่อ 31 ก.ค.67
เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮะมาส เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรยากาศความขัดแย้งสูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากปฏิบัติการลอบสังหารเกิดขึ้นระหว่างที่ Ismail Haniyeh กำลังเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่านที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศต่อที่พักอาศัยในกรุงเตหะราน กรณีนี้นอกจากทำให้กลุ่มฮะมาสโกรธแค้นแล้ว ยังกระตุ้นให้อิหร่านและกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งสนับสนุนกลุ่มฮะมาส ไม่พอใจและประกาศตอบโต้เพื่อแก้แค้นอิสราเอลด้วย เพราะอิหร่านถือว่าการโจมตีในพื้นที่อิหร่านถือว่าเป็นการรุกรานและยั่วยุอย่างร้ายแรง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านจัดประชุมพบหารือกับตัวแทนพันธมิตรประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลางและผู้นำกองกำลังในภูมิภาคเมื่อ 1 ส.ค.67 เพื่อกำหนดแผนตอบโต้อิสราเอล ด้านอิสราเอลประเมินว่าอิหร่านและกองกำลังต่าง ๆ เตรียมจะตอบโต้ภายในสัปดาห์นี้ แต่ไม่ได้ยอมรับว่าอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารดังกล่าว
นานาชาติวิตกกังวลกับสถานการณ์ความมั่นคงและความปลอดภัยในพื้นที่ขัดแย้ง เฉพาะอย่างยิ่งอิสราเอลที่เสี่ยงตกเป็นเป้าโจมตีจากหลายฝ่าย จึงประกาศเตือนพลเรือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปอิสราเอล รวมทั้งเลบานอน ที่เป็นพื้นที่ขัดแย้งและโจมตีผู้นำกองกำลังต่าง ๆ ที่สนับสนุนกลุ่มฮะมาสเช่นกัน สำหรับประเทศที่ประกาศเตือนแล้ว เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี สวีเดน นอร์เวย์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และออสเตรเลีย สะท้อนว่าประเทศเหล่านี้ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ค่อนข้างรุนแรงและอันตรายอย่างมาก พร้อมกันนี้ หลายประเทศในเอเชียแสดงท่าทีเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจและยุติการตอบโต้โดยใช้ความรุนแรง รวมทั้งพยายามใช้การทูตแก้ไขปัญหาแทนการทหาร แต่น่าจะไม่เป็นผล พิจารณาจากท่าทีของผู้นำอิสราเอลที่ยังเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน อิสราเอลยังคงโจมตีพื้นที่ที่มีพลเรือนปาเลสไตน์อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีและความรุนแรงในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณ 39,500 ราย นักวิเคราะห์ต่างประเทศเริ่มให้ความเห็นว่าอิสราเอลไม่สนใจการเจรจาหยุดยิงและการสร้างสันติภาพในระยะยาว