การตอบโต้ด้วยมาตรการทหารระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซายังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อ 14 สิงหาคม 2567 อิสราเอลแจ้งเตือนให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ Khan Younis ทางตอนใต้อีกครั้ง เพื่อเตรียมโจมตีกองกำลังกลุ่มฮะมาส ที่ยังคงโจมตีผลประโยชน์ของอิสราเอล โดยมีรายงานว่าเมื่อ 13 สิงหาคม 2567 กลุ่มฮะมาสยิงจรวด 2 ลูกจากฉนวนกาซาเข้าไปยังกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอล แม้ว่าอิสราเอลจะสกัดได้ แต่การที่กลุ่มฮะมาสยังมีศักยภาพในการโจมตี จะทำให้อิสราเอลไม่ยุติการทำสงครามในฉนวนกาซา แม้ว่านานาชาติ รวมทั้งองค์กรสำคัญอย่างสหประชาชาติ (UN) จะคัดค้านอย่างมากก็ตาม
ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวขึ้น เนื่องจากยังมีรายงานการโจมตีระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการโจมตีเรือจนส่งสินค้าในทะเลแดง คาดว่าเป็นการโจมตีโดยกลุ่มฮูษีในเยเมน นอกจากนี้ อิหร่านประกาศเมื่อ 14 สิงหาคม 2567 ปฏิเสธข้อเสนอขอประเทศตะวันตกที่เรียกร้องให้อิหร่านยุติความมุ่งหมายที่จะแก้แค้นเอาคืนอิสราเอล จากกรณีสังหารผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮะมาสระหว่างเดินทางในอิหร่าน
โดยนายกรัฐมนตรี Keir Starmer ของสหราชอาณาจักรโทรศัพท์เพื่อหารือกับประธานาธิบดี Masoud Pezeshkian ของอิหร่านเมื่อ 12 สิงหาคม 2567 พร้อมกับออกถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนี แต่ไม่สามารถเปลี่ยนใจอิหร่านได้ สำหรับความพยายามแก้ไขปัญหาครั้งนี้ของสหราชอาณาจักรค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผู้นำสหราชอาณาจักรโทรศัพท์คุยกับผู้นำอิหร่านโดยตรง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ มีนาคม 2564 จึงอาจสะท้อนว่าสหราชอาณาจักรต้องการกลับไปมีบทบาทในการควบคุมสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง หรือกังวลกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่อาจลุกลามบานปลายเป็นความขัดแย้งใหญ่ในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ผู้นำอิหร่านยืนยันว่าการแก้แค้นเป็นทางเดียวที่จะหยุดยั้งการก่ออาชญากรรมได้ และอิหร่านมีสิทธิตามกฎหมายที่จะแก้แค้นผู้ที่บ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ ด้านอิสราเอลยังไม่ยอมรับหรือปฏิเสธว่าอยู่เบื้องหลังการสังหารผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮะมาสดังกล่าว แต่ยกระดับความพร้อมเจ้าหน้าที่ทหารอยู่ในระดับสูงสุด ขณะที่สหรัฐฯ เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของอิหร่านอย่างใกล้ชิด พร้อมประเมินว่าอิหร่านอาจแก้แค้นในช่วงสัปดาห์นี้ โดยใช้กองกำลังติดอาวุธในภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นผู้ดำเนินการแทน (proxy)
สหรัฐอเมริกายังคงผลักดันให้เกิดการเจรจาหยุดยิง โดยเฉพาะข้อตกลงหยุดยิงที่ประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน เสนอ โดยระบุว่าจะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างสันติภาพ ช่วยเหลือตัวประกัน และช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ที่กำลังประสบภัยด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันอิสราเอลปิดเส้นทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่เมือง Rafah ในฉนวนกาซาแล้ว ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าวจึงแนวโน้มเผชิญวิกฤตในระยะยาว ด้านกลุ่มฮะมาสก็เห็นด้วยกับการผลักดันข้อตกลงดังกล่าว เพราะไม่ต้องการเริ่มกระบวนการเจรจาใหม่