การเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่โดฮาเมื่อสัปดาห์ก่อนยุติลงโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ ฝ่ายฮามาสไม่ได้เข้าร่วมโดยตรง และทำท่าไม่ค่อยพอใจข้อเสนอของสหรัฐโดยหาว่าเอนเอียงไปทางอิสราเอล ข้อเสนอที่ว่าก็คือ ขั้นที่ 1 ให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างนี้ให้มีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลในมือฮามาสจำนวนหนึ่งที่เป็นผู้หญิง คนป่วย คนแก่ แลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ในมืออิสราเอล จากนั้นก็เข้าสู่ขั้นที่ 2 คือฮามาสปล่อยตัวประกันที่เป็นทหารอิสราเอลพร้อมกับคืนร่างผู้ที่เสียชีวิต
ส่วนอิสราเอลก็เริ่มถอนกำลังออกจากกาซ่าแล้วให้ชาวปาเลสไตน์กลับเข้าไปยังถิ่นฐานเดิมทางเหนือของกาซ่า ซึ่งประเด็นที่ตกลงกันไม่ได้คือฮามาสต้องการให้อิสราเอลถอนทหารออกจากกาซ่าทั้งหมดแต่อิสราเอลไม่ยอม ในทางตรงข้ามกลับมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่านายกเนทันยาฮูของอิสราเอลต้องการคงกำลังทหารไว้ที่บริเวณ “ระเบียงฟิลาเดลเฟีย” (Philadelphia Corridors) คือพื้นที่บนพรมแดนทางบกยาว 14 กิโลเมตรระหว่างกาซ่ากับอียิปต์ อันเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เปรียบเสมือนรูหายใจของฮามาสในการลักลอบขนอาวุธและกระสุนจากอียิปต์เข้าไปในกาซ่าผ่านทางอุโมงค์ใต้ดิน อิสราเอลจึงต้องการยึดพื้นที่ตรงนี้ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ฮามาสสามารถรื้อฟื้นกองกำลังขึ้นมาเป็นอันตรายกับอิสราเอลอีก
ในการเจรจากับฮามาสนั้น อิสราเอลส่งระดับหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงไปเป็นทีมเจรจา คุยกันมาเป็นเดือนๆ ก็มีความคืบหน้าที่จะไปสู่สันติภาพได้อยู่บ้าง แต่ที่มันติดจริงๆ ก็น่าจะอยู่ที่นายกอิสราเอลนี่แหล่ะที่ยืนยันไม่ยอมถอนทหารออกจากฟิลาเดลเฟีย คอริดอร์ จนตัวกลางอย่างอียิปต์กับกาตาร์เห็นว่าหากอิสราเอลยังคงทหารไว้ที่พรมแดนอียิปต์-กาซ่าก็ไม่ตรงกับข้อเสนอของสหรัฐที่บอกว่าการบริหารพรมแดนให้เป็นอำนาจของรัฐบาลปาเลสไตน์โดยอิสราเอลติดตามดูได้อยู่ห่างๆ ดังนั้นถ้าอิสราเอลยังไม่ยอมตามข้อเสนอนี้ประเทศตัวกลางก็จะไม่สามารถช่วยกดดันฮามาสให้ยอมรับการเจรจาได้
ขณะนี้สถานการณ์ได้มาถึงจุดที่ทีมเจรจาของอิสราเอลหรือแม้แต่รัฐมนตรีกลาโหมก็เห็นว่าต้องให้ความสำคัญกับการเจรจาให้ยุติลงด้วยการหยุดยิงให้ได้ก่อนมิฉะนั้นสงครามอาจบานปลายไปสู่การรบกับอิหร่านและฮิซบอลเลาะห์อย่างไม่มีวันหยุดพักซึ่งหลังจากการเจรจาที่โดฮาแล้ว แอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐก็บินไปอียิปต์เพื่อเจรจารอบต่อไปในสัปดาห์นี้ แต่ระหว่างทางบลิงเคนแวะอิสราเอลก่อน เพื่อกล่อมนายกเนทันยาฮูของอิสราเอลซึ่งต่อมาก็ให้ข่าวว่าเนทันยาฮูยอมรับข้อเสนอแล้วโดยไม่เปิดเผยว่านายกอิสราเอลยอมรับข้อเสนออะไร? แค่ไหน?
ส่วนทางฮามาสเองก็ยังไม่มีการแสดงท่าทีใดๆ ออกมาจึงต้องรอดูภายใน 1-2 วันนี้ว่าฮามาสจะยอมรับข้อเสนอในการหยุดยิงตามที่สหรัฐ อียิปต์ และกาตาร์เป็นตัวกลางหรือไม่ด้วยเงื่อนไขใด ตอนนี้ทุกฝ่ายก็เล่นสงครามข่าวสารเพื่อกล่าวหาอีกฝ่ายว่าเป็นต้นเหตุให้การเจรจาไม่คืบหน้าพร้อมกับกดดันให้อีกฝ่ายยอมรับการหยุดยิง
ทางด้านอิหร่านกับฮิซบอลเลาะห์ยังอยู่ในโหมดเตรียมพร้อมที่จะโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ตามที่พูดไว้ได้ทุกเวลาแต่ที่ยังไม่ลงมือเพราะต้องการรอดูผลการเจรจาหยุดยิงในกาซ่าว่าจะออกมาอย่างไร แต่เอาเข้าจริงคงไม่มีใครอยากเข้าสู่สงครามให้เกิดความสูญเสีย ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการหาทางลงโดยที่ไม่เสียศักดิ์ศรี แต่สำหรับอิหร่านถ้าหากไม่รบกับอิสราเอลครั้งนี้ก็อาจดึงเข้าสู่เกมที่ตนเองถนัดมากกว่านั่นคือสงครามก่อการร้ายซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ชายจากเขตเวสต์แบ้งค์ เดินแบกเป้ไประเบิดบนถนนในกรุงเทลอาวีฟเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นสัญญานเริ่มการปฏิบัติการในลักษณะนี้แล้ว ลักษณะของการระเบิดยังไม่แน่ชัดว่าเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย หรือเป็นการจุดระเบิดขึ้นมาโดยอุบัติเหตุ แต่ผู้ปฏิบัติการตั้งใจแบกระเบิดเดินเข้าไปใกล้กับโบสถ์ยิวซึ่งเป็นย่านชุมชน แต่เกิดระเบิดขึ้นมาเสียก่อนทำให้ผู้ปฏิบัติการเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 7 ตุลาคมปีที่แล้วเมื่อฮามาสส่งกองกำลังเข้ามาในอิสราเอลสังหารชาวอิสราเอลไป 1,200 คน จับตัวประกันไป 250 คน ปัจจุบันคาดว่ายังเหลือตัวประกันที่ยังมีชีวิต 111 คน จากนั้นอิสราเอลก็ส่งกำลังบุกเข้ากาซ่าทำลายและยึดพื้นที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปประมาณ 40,000 คน ในขณะที่อิสราเอลโทษอิหร่านเป็นตัวการอยู่เบื้องหลังฮามาสและได้สังหารผู้นำฮามาสเสียชีวิตในกรุงเตหะรานเมื่อ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ไม่ว่าการสู้รบจะเกิดขึ้นหรือไม่แต่แค้นของอิหร่านกับฮิซบอลเลาะห์ต่ออิสราเอลนั้นยังไม่จบแน่นอน
ไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมาว่าจะมีการหยุดยิงในกาซ่าหรือไม่ ผลประโยชน์ของอิสราเอลทั่วโลกจึงมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายโจมตี เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต