ความตอนที่แล้วจบลงที่การคาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีอิหร่านเพื่อตอบโต้การที่อิหร่านถล่มอิสราเอลด้วยจรวดมิสไซล์เกือบ 200 ลูกเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ทำไมอิสราเอลยังเฉยอยู่ ถามว่ายังจะโจมตีอิหร่านอยู่มั้ย? กี่โมง?
คำตอบคือ จะยังโจมตีอยู่จ้า ! เรารู้นิสัยคนยิวดี แต่กี่โมงไม่รู้ !? ต้องถามเนทันยาฮู เอาเป็นว่าตอนนี้เขายังสาละวนอยู่กับการจัดการศัตรูข้างบ้านก่อนเพราะถ้าเมื่อไรเปิดศึกกับอิหร่าน กลายเป็นสงครามขึ้นมา ศัตรูข้างบ้านนี่แหล่ะที่จะคอยทิ่มตำคนในบ้านให้พะวักพะวงจนไม่มีสมาธิในการสู้รบกับศัตรูหลักอย่างอิหร่าน
ลองหลับตานึกภาพประเทศอิสราเอล ทางเหนือติดกับเลบานอนและซีเรีย ในเลบานอนมีกลุ่มติดอาวุธชื่อฮิซบอลล่าห์ ในซีเรียก็มีกลุ่มติดอาวุธภายใต้การสนับสนุนของซีเรียและอิหร่าน ส่วนทางด้านใต้ของอิสราเอลติดกับกาซ่า ก็มีกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่เข้ามาโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 เป็นต้นเหตุของสงครามกาซ่า ดังนั้นถ้าอิสราเอลไม่จัดการกับฮามาสและฮิซบอลล่าห์ซึ่งเปรียบเสมือน “ส่วนหน้า” ของอิหร่านก่อนที่จะเปิดศึกจริงกับอิหร่านก็จะทำให้อิสราเอลเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ตามวิสัยของอิสราเอลเมื่อถูกอิหร่านโจมตี ย่อมไม่มีทางที่จะไม่ตอบโต้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนในการริดเสี้ยนหนามใกล้ตัวเสียก่อน คือทำลายโครงสร้างของฮิซบอลล่าห์กับฮามาส หรืออย่างน้อยทำให้อ่อนกำลังลง แล้วค่อยขยับไปที่อิหร่าน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกศัตรูตีโอบ 3 ด้านพร้อมกัน การแก้แค้น 10 ปีก็ไม่สาย
ทันทีที่ถูกอิหร่านโจมตีด้วยมิสไซล์ อิสราเอลก็ส่งกำลังบุกเข้ายึดที่มั่นของฮิซบอลล่าห์ในเลบานอนโดยไม่สนว่าอยู่ในเขตแดนของรัฐหรือประเทศใด ไม่ต่างจากการบุกยึดกาซ่าเมื่อถูกฮามาสโจมตี แต่การไม่สนหน้าอินหน้าพรหมของอิสราเอลทำให้ถูกนานาชาติประณาม ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือนหรือ โรงพยาบาล ซึ่งถือว่าโหดร้าย ป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรม และล่าสุดก็เอาอีก คราวนี้อิสราเอลโจมตีฐานของกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอนของสหประชาชาติ หรือ UNIFIL ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเลบานอนเนื่องจากขัดขวางการติดตามการไล่ล่าฮิซบอลล่าห์ของอิสราเอลจนทำให้ถูกประณามจากเลขาธิการสหประชาชาติและประเทศตะวันตกอย่างฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน
การโจมตีเป้าหมายของอิสราเอลมักจะอ้างว่าผู้ก่อการร้ายใช้พลเรือนเป็นโล่ห์มนุษย์ทำให้ไม่มีทางเลี่ยงแต่ก่อนการโจมตีที่หมายใดๆ อิสราเอลก็จะแจ้งเตือนล่วงหน้าให้พลเรือนอพยพออกจากพื้นที่เป้าหมายก่อน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม อิสราเอลได้เพิ่มความเข้มข้นในการโจมตีที่มั่นฮิซบอลล่าห์ทางเหนือและฮามาสทางใต้ โดยประกาศให้ประชาชนใน 23 หมู่บ้านทางใต้ของเลบานอนอพยพขึ้นเหนือ พร้อมกันนั้นได้แจ้งเตือนว่าพื้นที่ค่ายผู้อพยพทางเหนือของกาซ่าเป็นเป้าหมายในการโจมตีซึ่งปรากฏว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อิสราเอลถูกยิงถล่มด้วยกระสุนวิถีโค้งมากกว่า 300 ลูกจากที่มั่นของฮิซบอลล่าห์ในเลบานอน และเมื่อวันอาทิตย์อิสราเอลได้โจมตีกว่า 200 เป้าหมายในเลบานอนมีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 51 คน
ขณะเดียวกันอิสราเอลก็โจมตีเข้าไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยทางเหนือของกาซ่า รวมทั้งโรงเรียน โรงพยาบาลที่อ้างว่าเป็นที่บัญชาการของฮามาสเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 60 คน ในภาพรวมนับตั้งแต่สงครามในกาซ่าอุบัติขึ้นมา 1 ปี มีผู้เสียชีวิต เป็นชาวปาเลสไตน์ในกาซ่าประมาณ 40,000 คน ประชาชนอิสราเอล 1,200 คน ทหารอิสราเอล 350 คน และประชาชนของเลบานอน 2,100 คน
พื้นที่ตะวันออกกลางจะร้อนระอุไปอย่างนี้ และคงยากที่จะมีใครถอดชนวนความขัดแย้งได้ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐ สหประชาชาติ รัสเซีย จีน ยุโรป เนื่องจากวิธีคิดของอิสราเอลเป็นแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเท่านั้น ไม่มีการลดลาวาศอก ต่อให้คนยิวถูกจับเป็นตัวประกันก็จะไม่ยอมเจรจาเพราะเขาถือว่าความกลัวจะยิ่งทำให้ผู้ก่อการร้ายได้ใจ ในตอนนี้คงมีแต่แรงกดดันจากประชาชนในประเทศเท่านั้นที่จะหยุดเนทันยาฮูได้
ความขัดแย้งจึงไม่มีท่าทียุติลงในเร็ววัน มีแต่จะขยายออกไปเมื่ออิสราเอลตัดสินใจโจมตีอิหร่านซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องใช้วิธีบินโดรนยิงจรวดแบบหว่านแหอันมีผลกระทบเชิงลบย้อนกลับมาที่อิสราเอลเอง แต่จะใช้ความได้เปรียบด้านการข่าวกรองทำลายเป้าหมายแบบพุ่งเป้ามากกว่าอย่างการสังหารผู้นำฮิซบอลล่าห์ ผู้นำฮามาส หรือผู้บัญชากองกำลังพิทักษ์อิสลามอิหร่าน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือสถานที่สำคัญจึงมีสิทธิตกเป็นเป้าหมายการโจมตีได้ซึ่งทางฝ่ายอิหร่านก็คงพอมองออกและต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยของตัวเองขึ้นมา ในขณะเดียวกันทางฝ่ายอิหร่านและพวกก็แอบเล็งเป้าหมายโจมตีกลับในอิสราเอลไว้แล้วเช่นกันได้แก่ฐานทัพทหารอิสราเอลบนที่ราบสูงโกลัน กับท่าเรืออัยลัต (Eilat) ในทะเลแดง
สถานการณ์ในตะวันออกกลางทำให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปแล้วร้อยละ 5 ไปอยู่ที่ 74-77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นี่ถ้าอิสราเอลโจมตีอิหร่านเมื่อไรไม่พุ่งปรี๊ดเลยหรือ ตอนเกิดสงครามยูเครนราคาน้ำมันพุ่งไปเกินกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ผลที่ตามมาคือค่าขนส่งสินค้าขึ้นราคา เงินเฟ้อสูงขึ้น และเฟดก็คงไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ประเทศอย่างไทยเราที่นำเข้าน้ำมันเป็นหลักก็คงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เตรียมตัวรับสถานการณ์กันได้เลย