ความขัดแย้งและการทำสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา และในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เฉพาะอย่างยิ่งในเลบานอน ที่กองทัพอิสราเอลปะทะกับกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ สำหรับการเจรจาหยุดยิง หรือการตัดสินใจยุติปฏิบัติการทางการทหารในพื้นที่ ยังไม่มีสัญญาณที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากอิสราเอลยืนยันจะต้องช่วยเหลือตัวประกันที่ยังคงอยู่ในฉนวนกาซา
เมื่อ 8 พฤศจิกายน 2567 การโจมตีในทางตอนเหนือของฉนวนกาซา และตอนใต้ของเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซา ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 ประมาณ 43,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็ก ผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 102,500 คน ผู้เสียชีวิตในเลบานอนอยู่ที่ประมาณ 3,100 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 13,800 คน
ปัจจุบันสถานการณ์ความมั่นคงภายในอิสราเอลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากผู้นำอิสราเอลเผชิญกระแสต่อต้านจากประชาชนอย่างหนักหลังจากตัดสินใจปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกจากตำแหน่งเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับการปฏิบัติการทหารและการเจรจากับกลุ่มฮะมาส เพื่อปล่อยตัวประกัน แต่อิสราเอลควบคุมสถานการณ์การประท้วงในประเทศได้
อย่างไรก็ดี ชาวอิสราเอลเสี่ยงเผชิญกระแสต่อต้านจากนอกประเทศสูงมาก และที่ชาวอิสราเอลมีแนวโน้มเสี่ยงตกเป็นเป้าหมายโจมตีหรือก่อเหตุรุนแรงโดยกลุ่มที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ หรือกลุ่มที่ต่อต้านชาวยิว หรือกลุ่มที่ไม่พอใจนโยบายของรัฐบาลอิสราเอล เนื่องจากมีรายงานเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2567 ว่า ผู้นำอิสราเอลต้องส่งเครื่องบินไปช่วยเหลือชาวอิสราเอลที่อยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ หลังจากเกิดกรณีการปะทะระหว่างชาวอิสราเอลที่เดินทางไปเชียร์กีฬาฟุตบอล กับกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนปาเลสไตน์ระหว่างการแข่งขันกีฬาฟุตบอลที่สนามกีฬาโยฮัน ครัฟฟ์ ซึ่งแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจของเนเธอร์แลนด์จะควบคุมสถานการณ์ได้ในที่สุด แต่บุคคลที่สูญหาย อาจถูกจับเป็นตัวประกัน เพื่อกดดันรัฐบาลอิสราเอล ทำให้อิสราเอลกังวลกับความปลอดภัยของชาวอิสราเอลในต่างประเทศ และมีแนวโน้มจะประกาศคำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัย
สิ่งที่ต้องจับตามองกันต่อไปก็คือ สถานการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซา รวมทั้งสถานการณ์ในเลบานอนที่ความรุนแรงในทั้ง 2 พื้นที่มีแนวโน้มจะขยายตัว หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกวาระในต้นปี 2568 ทำตามที่ได้ประกาศระหว่างหาเสียงว่าจะสนับสนุนอิสราเอลให้ปฏิบัติการลุล่วงสำเร็จได้ หากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และชาวปาเลสไตน์ยังเชื่อว่าทรัมป์พร้อมจะดำเนินนโยบายขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาด้วย