กองทัพอิสราเอลเมื่อ 28 ธ.ค.67 บุกโจมตีพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา และมีรายงานว่าเข้ายึดโรงพยาบาล Kamal Adwan พร้อมกับควบคุมตัวผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเอาไว้ ทำให้องค์กรอนามัยโลก (WHO) ต้องประกาศปิดทำการโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ พร้อมกับเรียกร้องให้อิราเอลปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ ขณะที่กองทัพอิสราเอลระบุว่าจำเป็นต้องควบคุมตัว ดร.Abu Safiya ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวไว้ เนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการของกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซา พร้อมกับยืนยันว่าโรงพยาบาลดังกล่าวถูกใช้เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮะมาส ซึ่งหากอิสราเอลสืบสวนแล้วว่าบุคคลใดไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮะมาส ก็จะปล่อยตัว อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลครั้งนี้ ทำให้นานาชาติกังวลมากขึ้น เนื่องจากอาจเป็นการกล่าวหาและทำให้ฉนวนกาซาไม่มีโรงพยาบาลที่ปลอดภัย
กลุ่มฮะมาสเรียกร้องให้นานาชาติและสหประชาชาติเข้าแทรกแซงสถานการณ์ครั้งนี้โดยเร็ว เพื่อปกป้องความมั่นคงด้านสาธารณสุขต่อชาวปาเลสไตน์ เพราะไม่สามารถอพยพออกจากพื้นที่ได้ รวมทั้งไม่มีโรงพยาบาลและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แม้ว่ากองทัพอิสราเอลจะประกาศเตือนให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซาล่วงหน้า แต่ไม่ทันเวลา ทำให้ถูกกองทัพอิสราเอลควบคุมตัวและสอบสวน ด้วยการข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย และทำให้หวาดกลัว ตลอดจนถูกบังคับให้ไปอยู่ในโรงพยาบาลที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ปฏิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอลทำให้ NGOs ต่างประเทศเคลื่อนไหวมากขึ้นเพื่อเรียกร้องสิทธิและความปลอดภัยให้ชาวปาเลสไตน์ เช่น MedGlobal, Amnesty International และ WHO รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวด้วย
นอกเหนือจากการโจมตีในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลรายงานว่าโจมตีกลุ่มฮูษีในเยเมน โดยเมื่อ 26 ธ.ค.67 มีรายงานว่าอิสราเอลโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติในเมือง Sanaa และเมืองอื่น ๆ ของเยเมน เป้าหมายเพื่อปราบปรามกลุ่มฮูษี ซึ่ง นรม.เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลย้ำว่าจะเดินหน้าการโจมตีต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจ พร้อมกันนี้ เมื่อ 25 ธ.ค.67 นรม.เนทันยาฮูเข้ารับการผ่าตัดต่อมลูกหมาก และจะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Hadassah ประมาณ 1 สัปดาห์ ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นในห้วงเดียวกันกับที่ นรม.เนทันยาฮูต้องชี้แจงต่อศาลในคดีอาญา ข้อหาคอร์รัปชันและรับสินบน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาปฏิเสธมาโดยตลอด