กองทัพอิสราเอลเมื่อ 11 มกราคม 2568 ปฏิบัติการโจมตีในพื้นที่ตอนใต้ของเลบานอน ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงเวลาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว โดยอิสราเอลยืนยันว่า ยังดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนกับอิสราเอลก่อนหน้านี้ แต่จำเป็นต้องโจมตีทางอากาศในพื้นที่ตอนใต้ เนื่องจากกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ยังไม่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็น 1 ในเงื่อนไขตามข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว ที่เริ่มต้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2567 ระยะเวลานาน 60 วัน หรือจนถึง 26 มกราคม 2568 การตอบโต้และการกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิง อาจทำให้ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวนี้ล้มเหลว และสะท้อนว่าคู่ขัดแย้งในพื้นที่ยังไม่สามารถลดระดับความเกลียดชังและหวาดระแวงระหว่างกันได้ คาดว่าเมื่อข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวสิ้นสุดในปลายมกราคม 2568 ความตึงเครียดระหว่างอิราเอล-กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
สงครามในฉนวนกาซาก็ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง องค์กรระหว่างประเทศเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีในพื้นที่ที่พลเมืองชาวปาเลสไตน์อยู่อาศัย แต่ไม่สำเร็จ ทำให้มีรายงานผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาจากการโจมตีของอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 46,000 ราย ยังไม่มีสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุการเจรจาหยุดยิงเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและแลกเปลี่ยนตัวประกันเร็ว ๆ นี้ ผู้เชี่ยวชาญในฉนวนกาซาประเมินความมุ่งหมายของกองทัพอิสราเอล คือ การสังหารชาวปาเลสไตน์ให้มากที่สุด ทั้งด้วยวิธีการปฏิบัติการทางทหาร ตัดความช่วยเหลือจากองค์กรนานาชาติ และทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข เพื่อเอื้อให้อิสราเอลยึดครองพื้นที่ฉนวนกาซาได้ง่ายขึ้นในอนาคต
นรม.เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยังเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติ จากกรณีที่มีกำหนดการเยือนโปแลนด์ใน 27 มกราคม 2568 เพื่อเข้าร่วมพิธีครบรอบ 80 ปี รำลึกเหตุการณ์ค่ายกักกันเอาชวิตซ์-เบียเคเนา ซึ่งตรงกับวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวสากล (International Holocaust Remembrance Day) การเข้าร่วมพิธีในโปแลนด์อาจทำให้ นรม.เนทันยาฮูเสี่ยงถูกควบคุมตัว เพราะปัจจุบันศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ออกหมายจับ นรม.เนทันยาฮูแล้วเมื่อ พฤศจิกายน 2567 เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมสงคราม หมายจับดังกล่าวมีผลให้เขาอาจถูกควบคุมตัวส่งศาลอาญาระหว่างประเทศได้ หากเดินทางไปประเทศที่ให้สัตยาบันรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งโปแลนด์ด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโปแลนด์ประกาศว่าจะไม่ควบคุมตัว นรม.เนทันยาฮู และจะได้รับความปลอดภัยตลอดระยะเวลาเข้าร่วมพิธีดังกล่าว ทำให้ประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันประท้วงไม่พอใจ และต้องการให้รัฐบาลโปแลนด์แสดงจุดยืนต่อต้านการก่ออาชญากรรมสงคราม และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์