สื่ออิสราเอลรายงานเมื่อ 22 ม.ค.68 ว่า นาย Bezalel Smotrich รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอิสราเอลจัดประชุมลับ เพื่อเตรียมการรณรงค์เรียกร้องให้ยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮะมาส ทันทีหลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยนตัวประกัน โดยนาย Bezalel Smotrich ได้รับการสนับสนุนจากชาวอิสราเอลที่ได้รับความสูญเสียจากสถานการณ์สงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 15 เดือน รวมทั้งบุคคลที่คัดค้านการทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮะมาส สำหรับแผนการรณรงค์จะประกอบด้วยการกระตุ้นให้สาธารณะและนานาชาติเห็นด้วยกับการยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง
อย่างไรก็ตาม หากอิสราเอลยกเลิกข้อตกลง จะทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวประกันได้ทั้งหมด ด้านทีมงานของนาย Bezalel Smotrich ปฏิเสธข้อมูลนี้ และยืนยันว่ามีการพบหารือกับผู้ทีได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์นี้จริง แต่เป็นนโยบายปกติ ที่นาย Bezalel Smotrich ต้องการช่วยเหลือ ทั้งนี้ นาย Bezalel Smotrich เป็นนักการเมืองอิสราเอลฝ่ายขวาขัดอนุรักษ์นิยม สนับสนุนการผนวกดินแดนของชาวปาเลสไตน์ให้เป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล
ทั่วโลกยังคงคาดหวังให้คู่ขัดแย้งปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงต่อไป องค์กรนานาติเร่งเพิ่มการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ ว่าที่ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงท่าทีเมื่อ 23 ม.ค.68 ต้องการให้คู่ขัดแย้งเริ่มการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 2 เพื่อให้มีความคืบหน้าในการสร้างสันติภาพระหว่างกัน ด้านกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศตัวกลางการเจรจาและผู้ประสานงานเปิดเผยในวันเดียวกันว่าการเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกันเพิ่มเติม ตามข้อตกลงระยะที่ 2 เริ่มต้นแล้ว โดยจะหารือกันที่อียิปต์ เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่จะรอให้คู่ขัดแย้งปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกเป็นเวลา 16 วัน ค่อยเริ่มการเจรจาในระยะต่อไป คาดว่าการเจรจาในระยะต่อไปจะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของอิสราเอล รวมทั้งสหรัฐฯ เข้าร่วม อย่างไรก็ตาม นรม.เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลยังไม่มีท่าทีเรื่องความคืบหน้าการเจรจาระยะที่ 2
แม้ว่าการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาจะมีความต่อเนื่อง และอิสราเอลเมื่อ 23 ม.ค.68 ประกาศอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์จำนวนประมาณ 5,500 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสงคราม เดินทางออกนอกพื้นที่ไปยังอียิปต์ได้เร็ว ๆ นี้ เพื่อบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรม เพราะมีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 12,000 คนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านการแพทย์อย่างเร่งด่วน
สถานการณ์การปะทะระหว่างกองทัพอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ค่อนข้างน่าห่วงกังวล สหประชาชาติวิตกว่าอิสราเอลจะมุ่งทำลายล้างชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น เพราะมีรายงานการโจมตี ก่อความรุนแรงและทำลายโครงสร้างพื้นฐานในเขตเวสต์แบงก์มากขึ้นตั้งแต่บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮะมาสในฉนวนกาซาเมื่อ 15 ม.ค.68 ดังนั้น สมรภูมิและความเสียหายจากการปะทะทางทหารอาจย้ายจากฉนวนกาซาไปเป็นเขตเวสต์แบงก์
