หมู่บ้านก๊กโก่ เมื่อ 25-30 ปีที่แล้วมีแต่ไม้ซุงกองซ้อนสูงเท่ากับตึก 3-4 ชั้น เวลาชักลากไม้จะมีฝุ่นทรายคลุ้งไปไกลถึงพื้นที่ฝั่งไทยที่อำเภอแม่สอด แล้วรู้ไหมว่าการทำไม้เขาทำกันทั้งวันทั้งคืนแข่งกับเวลาเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรผู้มีอำนาจจะเปลี่ยนนโยบาย ถ้าสมัยนั้นคนรู้จัก PM 2.5 คงได้ประท้วงกันวุ่นวายเพราะนอกจากการทำไม้ที่ทำให้เกิดฝุ่นเป็นหมอกขาวแล้วยังมีการเข้า-ออกของฝูงวัวควายเป็นร้อยเป็นพันที่ทำให้เกิดฝุ่นตลบอบอวล วัวควายเหล่านี้ต้อนมาจากพื้นที่ชั้นในของพม่ามาคลิปหูเช็คยอดก่อนข้ามพรมแดนเข้ามาขายในประเทศไทย
การทำไม้ฝั่งพม่าสมัยนั้นเป็นความร่วมมือระหว่างพ่อเลี้ยงสม จันทร์กระจ่าง เจ้าพ่อไม้สาละวินกับนายพลโบเมี้ยะ เบอร์ 1 ของ KNU เนื่องจากประเทศไทยมีนโยบายปิดป่าส่งผลให้การตัดไม้ไทยทำไม่ได้ แต่เรื่องของไม้สาละวินนี้ถ้ายังจำกันได้ช่วงหนึ่งมีข่าวการลักลอบตัดไม้จากฝั่งไทยข้ามไปสวมโสร่งฝั่งพม่าซึ่งก็คือการทำหลักฐานเท็จเพื่อฟอกขาวว่าเป็นไม้พม่าก่อนนำเข้ามาขายในไทยอีกทีหนึ่ง
การทำไม้เป็นธุรกิจของผู้มีอิทธิพลต้องใช้ความเป็นนักเลงแบบใจถึงใจกับกองกำลังฝั่งตรงข้ามจึงจะทำให้ธุรกิจอยู่รอด ถ้าตัดไม้แล้วไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ ไม่เกินข้ามคืนรถเครื่องจักรโดนกะเหรี่ยงเผาวอดแน่ ที่สำคัญต้องจ่ายเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนทั้งสองฝั่งไม่งั้นไม่มีทางที่ไม้ต้นใหญ่เท่าบ้านจะผ่านเข้าออกชายแดนได้ แล้วถ้าเป็นไม้ไทยเขานำออกไปได้อย่างไร? โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็น โถ..แม่น้ำเมยบางช่วงตื้นจะตาย แค่เอาซุงพาดเรียงเป็นสะพานไว้ใต้น้ำก็สังเกตไม่เห็นแล้ว ตอนจะขนก็รอให้น้ำลงพอท่วมผิวไม้ก็ขับรถขนซุงผ่านได้แล้วซึ่งดูไกลๆก็เหมือนรถวิ่งบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนเวลาขนย้ายก็นัดแนะกันให้ดีสิ เอาช่วงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าก็ผ่านได้แล้ว
ธุรกิจตามแนวชายแดนมันต้องอย่างนี้ ต้องเถื่อนๆ หน่อยเพื่อแลกกับรายได้ที่งดงามเป็นแรงจูงใจ ไม่มีใครสนใจกระบวนการตามกฎหมายเท่าใดนัก ที่ทำกันก็เพื่อให้มีรายได้เข้ารัฐบ้างเป็นพิธี อย่างตอนนั้นรัฐบาลพม่าสั่งปิดด่านทำให้รถมือสองจากไทยผ่านเข้าไม่ได้ซึ่งการทำแบบนี้ก็เข้าทางขบวนการรถเถื่อนข้ามท่าเลย เพียงแค่ใช้เรือหางยาว 2 ลำประกบกันแล้วเอาไม้กระดานพาดแค่นี้รถปิ๊คอัพเป็นคันก็ขนข้ามเมยได้สบาย เห็นวิธีการของพวกนี้แล้วชิวมาก ยิ่งปิดด่านยิ่งดีของเถื่อนที่ผ่านเข้าออกจะได้ราคางาม
การทำไม้ในป่าฝั่งพม่าอยู่ในพื้นที่กะเหรี่ยง KNU ทั้งหมด ตอนนั้นโบเมี๊ยะเป็นใหญ่ เสมือนผู้ให้สัมปทานทำไม้ฝั่งพม่ากับพ่อค้าไม้ชาวไทย ในขณะที่ DKBA หากินกับการค้าชายแดนตามท่าข้ามต่างๆ รวมทั้งเก็บค่าคุมครองโดยเขาจะแบ่งพื้นที่หากินกันชัดเจนระหว่าง KNU กับ DKBA สำหรับพื้นที่ก๊กโก้ที่หม่องชิดตู่ดูแลมีการตั้งโรงเลื่อยเพื่อแปรรูปไม้เสร็จสรรพก่อนนำเข้าไทย
ช่วงนั้นยาบ้าระบาดหนัก แม้แต่แรงงานเลื่อยไม้ฝั่งกะเหรี่ยงยังจ่ายค่าจ้างเป็นยาบ้าแทนเงิน ตอนนั้นพื้นที่ควบคุมของ DKBA ตรงข้ามแม่สอดถูกใช้เป็นที่พักยาก่อนขนใส่เป้เดินเท้าข้ามมาส่งฝั่งไทย ก็จะมีม้งมารับช่วงต่อ บ้างก็ซ่อนมากับรถขนพืชผัก บ้างก็ใช้เส้นทางเดินป่าของคอมมิวนิสต์เก่าผ่านเขตอุทยานวังเจ้าขึ้นไปถนนสายตาก-แม่สอด หรือผ่านป่าคลองลานมาส่งยังที่นัดหมายริมถนนไฮเวย์สายเอเชียในเขตจังหวัดกำแพงเพชร ตำรวจไทยถึงต้องตั้งด่านตรวจถาวรที่ตำบลสลกบาตรเพื่อสกัดยาเสพติดก่อนเข้าเขตจังหวัดนครสวรรค์ ว่ากันว่าในเวิ้งป่ารอยต่อระหว่างตากกับกำแพงเพชรนั้น เดินไปเดินมาก็จ้ะเอ๋กันเองระหว่างขบวนการขนยากับขนคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย
พื้นที่ของ DKBA ช่วงนั้นหม่องชิดตู่คุมเมียวดีด้านตรงข้ามอำเภอแม่สอด มีลูกน้องคนสนิทชื่อมดโต่ง ส่วนตรงข้ามอำเภอพบพระเป็นเขตของ พ.ต.ซอลาป่วย หรือนะคำมวย หน่วยความมั่นคงไทยซึ่งมีภาพจำว่า DKBA เป็นกองกำลังที่ขาดวินัย ทำแต่ในสิ่งที่ไม่ชอบธรรมจึงติดต่อเฉพาะกับ KNU แต่ไม่คุยกับ DKBA
Credit TB – Talk