กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในฉนวนกาซาเมื่อ 15 มีนาคม 2568 โดยใช้อากาศยานไร้คนขับโจมตีชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลางของฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน รวมทั้งเด็ก และเยาวชน และผู้สื่อข่าว การโจมตีดังกล่าวทำให้นานาชาติห่วงกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งล่าช้าอย่างมากและยังไม่สามารถต่อรองเงื่อนไขสำคัญของทั้ง 2 ฝ่าย ขณะที่ผ่านมา อิสราเอลยังคงโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องแม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง มีรายงานว่ามีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วประมาณ 150 คน ตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงบังคับใช้เมื่อ 19 มกราคม 2568 รวมทั้งมีมาตรการตัดเส้นทางลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และตัดไฟฟ้าในฉนวนกาซา
กลุ่มฮะมาสระบุว่าการโจมตีในฉนวนกาซาเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ส่วนอิสราเอลชี้แจงว่าจำเป็นต้องโจมตีในฉนวนกาซาเพราะมีกลุ่มก่อการร้ายใช้อากาศยานไร้คนขับโจมตีหรือเป้นภัยคุกคามต่ออิสราเอล
การเจรจาข้อตกลงหยุดยิงยังคงดำเนินการต่อไปที่กรุงโดฮา กาตาร์ แต่ล่าช้าและเกือบล้มเหลว เพราะความต้องการของคู่ขัดแย้งแตกต่างกัน โดยกลุ่มฮะมาสต้องการให้อิสราเอลถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา ส่วนอิสราเอลต้องการคงกำลังทหารไว้ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ความมั่นคงต่อไป และยังต้องการให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันทั้งหมดทั้งที่ยังมีชีวิต และคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดด้วย ทั้งนี้ อิสราเอลยืนยันว่าพร้อมจะเจรจากับกลุ่มฮะมาสแต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของตนเอง
ล่าสุดเมื่อ 16 มีนาคม 2568 นรม.เบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลสั่งการให้ทีมเจรจาเตรียมพร้อมร่วมมือกับนาย Steve Witkoff ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ที่จะเน้นการช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอลจำนวน 11 คน เนื่องจากการช่วยเหลือตัวประกันเป้นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลอิสราเอลเผชิญแรงกดดันจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจะต่ออายุข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกไปจนถึง 19 เมษายน 2568 หรือช่วงสิ้นสุดเทศกาล Passover ของชาวอิสราเอลนั่นเอง
บทบาทของผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ในการเจรจาน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากเริ่มสร้างข้อต่อรองกับอียิปต์และกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ประสานงานการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งเหมือนกัน โดยนาย Witkoff พยายามโน้มน้าวผู้แทนฝ่ายอียิปต์และกาตาร์ให้เชื่อว่ากลุ่มฮะมาสไม่พร้อมสร้างสันติภาพ และไม่ยอมตัดสินใจ ทั้งที่ควรยอมรับข้อเสนอของอิสราเอลและสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศความมั่นคงให้ชาวปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม สื่อตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มฮะมาสยังไม่ไว้วางใจท่าทีของนาย Witkoff เนื่องจากเข้าข่างและเอื้อประโยชน์ให้อิสราเอล ขณะที่กลุ่มฮะมาสยังยอมรับเฉพาะข้อตกลงเดิมที่เคยหารือกับนาย Adam Boehler ว่าที่ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ด้านการช่วยเหลือตัวประกัน แต่ปัจจุบันนาย Adam Boehler ถอนตัวจากการรับตำแหน่งผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้านการช่วยเหลือตัวประกัน (special presidential envoy for hostage affairs – SPEHA) แล้ว โดยให้เหตุผลว่าตำแหน่งดังกล่าวจะมีเงื่อนไขในการปฏิบัติงาน