สื่อต่างประเทศรายงานเมื่อ 31 มี.ค. 68 ว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาต่อเนื่อง แม้ว่าชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมทั่วโลกจะอยู่ในช่วงเทศกาลการฉลองละศีลอดระหว่าง 30-31 มี.ค.68 โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการโจมตีในฉนวนกาซาอย่างน้อย 20 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ อิสราเอลยังประกาศใช้ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เมือง Rafah ตอนใต้ของฉนวนกาซา อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเตรียมจะปฏิบัติการทางทหาร อย่างไรก็ตาม สื่อรายงานว่าชาวปาเลสไตน์มากกว่า 50,000 คนไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงอื่น ๆ ไม่มีทรัพยากรมากเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน นานาชาติวิตกว่าอิสราเอลกำลังใช้สงครามบีบบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ต้องย้ายถิ่น
อิสราเอลมีแนวโน้มจะปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง โดยรอบใหม่นี้เริ่มเมื่อ 18 มี.ค.68 เพื่อกดดันให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ด้านกลุ่มฮะมาสประเทศเมื่อ 30 มี.ค.68 ยอมรับข้อตกลงหยุดยิงที่อียิปต์เสนอ คือ ให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันจำนวน 5 คน รวมทั้งชาวอเมริกัน แลกกับการหยุดยิงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อิสราเอลคัดค้านข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากไม่เป็นไปตามที่อิสราเอลต้องการ โดยอิสราเอลต้องการให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกัน 24 คนที่ยังมีชีวิตอยู่ และส่งคืนร่างตัวประกัน 35 คนที่เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วด้วย อิสราเอลย้ำว่าข้อเสนอของอิสราเอลนี้มีสหรัฐฯ ให้การรับรองและสนับสนุน ตลอดจนเสนอให้ประเทศตัวกลางการเจรจาควบคุมดูแลการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ไปถึงพลเรือน ไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธที่เป็นภัยคุกคามของอิสราเอล
สถานการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซาทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานให้ความช่วยเหลือและองค์กรระหว่างประเทศตกอยู่ในอันตราย โดยมีรายงานยืนยันเมื่อ 31 มี.ค.68 ว่า ทีมแพทย์จำนวน 8 คนขององค์กรสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) เสียชีวิตจากการปะทะในฉนวนกาซาเมื่อ 23 มี.ค.68 โดยยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ และยังมีเจ้าหน้าที่อีก 1 รายที่ยังหาไม่พบ ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานในรถพยาบาลฉุกเฉิน กรณีดังกล่าวทำให้ IFRC ไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากใช้เวลานานในการกู้และส่งร่างของผู้เสียชีวิต ทั้งที่แพทย์กลุ่มนี้เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งเคารพกฎระเบียบที่จะไม่โจมตีผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและผู้ให้บริการด้านสาธารณสุข แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งรุนแรงก็ตาม