ห้วงเกิดที่เกิดภาวะความไม่สงบหรือภาวะสงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาและไม่จำกัดอยู่แค่ไหนสนามรบ คือ การต่อสู้กันด้วยข้อมูลข่าวสาร หรือ “สงครามข่าวสาร” ที่คู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายสร้างขึ้น เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสื่อสารมวลชน และเพื่อชี้นำความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของผู้คนทั้งภายในประเทศและในประชาคมโลก และการไหลบ่าของข้อมูลทั้งข้อมูลจริง-เท็จ-บิดเบือนปะปนกันอย่างมากมาย ซึ่งเห็นได้ชัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากกรณีความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่มีเริ่มการตอบโต้ทางการทหารเมื่อ 24 กรกฎาคม 2568
แนวคิดใหม่ ๆ อย่าง Delulu is the Solulu” ก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจที่สามารถนำมาใช้ในบริบทของปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operations) และสงครามจิตวิทยา (Psychological Warfare) ด้วย
ก่อนที่จะไปดูกันว่า Delulu กับแนวคิดสงครามข่าวสารถูกใช้งานอย่างไร อยากจะชวนมาทำความรู้จักกับแนวคิด Delulu is the Solulu เพราะเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่คุ้น หรือไม่เคยได้ยินแนวคิดนี้มาก่อน จริง ๆ แล้ว แนวคิด “Delulu is the Solulu” เป็นวลีแสลงที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ในระยะหลัง โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z ย่อมาจาก “Delusional is the Solution” ซึ่งแปลตรงตัวว่า “ความเพ้อฝันคือทางออก” หรือ “การหลงผิดคือทางแก้” เป็นแนวคิดที่หากมองอย่างผิวเผินอาจจะดูไม่เข้ากัน แต่เดิมถูกใช้ในแง่ลบ แต่หากพิจารณาจริง ๆ แล้วแนวคิดนี้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในความเป็นไปได้ และถูกใช้เสมือนการสร้างแรงดึงดูด (Manifestation) หรือการคิดบวกเพื่อความสำเร็จอะไรบางอย่าง
“Delulu” กับแนวคิดสงครามข่าวสาร
อย่างที่ทุกคนทราบในภาวะสงคราม การปฏิบัติการข่าวสารก็เป็นสิ่งที่คู่ขัดแย้งหยิบยกมาใช้เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ ผ่านหลากหลายวิธีการ ทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ไปจนถึงการใช้ข้อมูลบิดเบือน (Disinformation) และการใช้ข่าวปลอม (Fake News) เป้าหมายคือการสร้างภาพลักษณ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายตน และบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของฝ่ายตรงข้าม รวมถึงการควบคุมการรับรู้ของประชาชนทั้งภายในและภายนอกประเทศ และในแง่นี้เอง “Delulu is the Solulu” สามารถถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในปฏิบัติการข่าวสารอย่างแยบยล ได้แก่
– การสร้างความหวังและขวัญกำลังใจ การใช้ “Delulu” เชิงบวก เช่น การสร้างภาพลักษณ์ของชัยชนะที่ใกล้เข้ามาหรือการยืนยันสิทธิอันชอบธรรมเหนือพื้นที่พิพาทที่แม้ว่าสถานการณ์จริงอาจยังไม่ชัดเจนหรือเสียเปรียบก็ตาม สิ่งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นความรักชาติ สร้างขวัญกำลังใจให้ทหารและประชาชนไม่ท้อถอย และรวมใจคนในชาติให้เป็นหนึ่งเดียว เช่น การนำเสนอข่าวความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการปะทะว่าเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ หรือการเผยแพร่ภาพและเรื่องราวของทหารที่กล้าหาญจนดูเหนือจริง
– บิดเบือนการรับรู้ของฝ่ายตรงข้าม การแพร่กระจายข้อมูลที่สร้างความหวังที่ผิด ๆ ให้กับฝ่ายตรงข้าม ข่าวลือเรื่องการเจรจาสันติภาพที่ไม่มีอยู่จริง หรือข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความอ่อนแอของกองกำลังตนเอง เหล่านี้อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามประมาท หรือวางแผนผิดพลาด
– บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้าม การสร้าง “Delulu” ที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงอย่างรุนแรง และเมื่อความจริงถูกเปิดเผย อาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามหรือนานาชาติมองว่าข้อมูลจากอีกฝ่ายไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามจิตวิทยาเพื่อลดความชอบธรรม
– การสร้างความชอบธรรมกับประชาคมโลก การใช้ “Delulu” การสร้างวาทกรรมที่สนับสนุนตนเอง
การนำเสนอเรื่องราวหรือข้อมูลที่สอดคล้องกับ “ความเพ้อฝัน” หรือ “ความปรารถนา” ของตนเอง จะช่วยให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจหรือการสนับสนุนจากนานาชาติ
– สร้างความแตกแยกภายในกลุ่มฝ่ายตรงข้าม การใช้ “Delulu” ในการโฆษณาชวนเชื่อ อาจมุ่งเป้าไปที่
การสร้างความเชื่อที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงในหมู่ประชาชนของฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้เกิดความไม่พอใจในผู้นำหรือนโยบายของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความแตกแยกภายในและลดความร่วมมือในการทำสงคราม เป็นต้น
กลยุทธ์ “Delulu” ในปฏิบัติการข่าวสาร
การนำ “Delulu” มาใช้ในปฏิบัติการข่าวสารมักอาศัยกลไกทางจิตวิทยาที่สำคัญ ได้แก่ การยืนยันอคติ (Confirmation Bias) ผู้คนมักจะเลือกเชื่อข้อมูลที่สอดคล้องกับความเชื่อเดิมของตนเอง “Delulu” จะเข้ามาเสริมสร้างความเชื่อเหล่านั้นให้แข็งแกร่งขึ้น แม้จะขัดแย้งกับหลักฐานเชิงประจักษ์ก็ตาม การหลีกหนีความจริง (Escapism) ในภาวะสงครามที่โหดร้าย ผู้คนมักต้องการหลีกหนีจากความจริงอันเจ็บปวด “Delulu” นำเสนอโลกแห่งความหวัง แม้จะเป็นเพียงภาพลวงตา ก็ช่วยให้พวกเขามีสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และสุดท้าย พลังของการเล่าเรื่อง (Power of Narrative) การสร้างเรื่องราวที่น่าดึงดูดใจ และเต็มไปด้วยความหวังแม้จะเกินจริง ก็สามารถส่งผลต่ออารมณ์และการกระทำของผู้คนได้อย่างมาก
ซึ่งในห้วงที่มีการปะทะกันหรือมีความตึงเครียดสูง หากดูกันในช่วงความตึงเครียดระหว่างไทยกับกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นในห้วงนี้ ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม จนถึงขณะนี้ 29 กรกฎาคม 2568 ที่พ้นการทำข้อตกลงหยุดยิงมา 1 วัน (ทำข้อตกลงที่มาเลเซียเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568) ทำให้ “Delulu” ในบริบทของปฏิบัติการข่าวสาร ทั้งการนำเสนอข้อมูลที่เกินจริง เช่น การรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตของอีกฝ่ายที่สูงเกินจริง หรือการอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ที่ยังคงเป็นข้อพิพาทอย่างเบ็ดเสร็จ การสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของกองทัพ รวมถึงการใช้ภาพหรือวิดีโอที่บิดเบือนนั้น ล้วนมีเป้าหมายเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทางจิตวิทยาที่ต้องการทั้งนั้น
ถึงแม้ว่า “Delulu” จะเป็นกลไกที่มีศักยภาพในปฏิบัติการข่าวสาร แต่ก็มีความท้าทายและผลกระทบที่ต้องเตรียมรับมือ เช่น หากความจริงเริ่มปรากฏชัดเจน ความน่าเชื่อถือของข้อมูล “Delulu” จะพังทลายลงอย่างรวดเร็ว และอาจนำไปสู่การไม่เชื่อใจในข้อมูลใดๆ จากแหล่งเดิม หรือการยึดติดกับ “Delulu” มากเกินไป อาจทำให้ผู้นำหรือประชาชนตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูลที่ผิดพลาด ซึ่งอาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อผลลัพธ์ของสงคราม
กล่าวโดยสรุป “Delulu is the Solulu” ไม่ใช่เพียงวลีที่ใช้ในหมู่คนรุ่นใหม่ แต่เป็นแนวคิดที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปฏิบัติการข่าวสารในภาวะสงครามได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ฝ่ายตน หรือเพื่อบิดเบือนการรับรู้ของฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม ในห้วงที่ไทยกับกัมพูชาขัดแย้งกันจนนำไปสู่การใช้กำลังทางทหารในห้วงนี้ การใช้กลยุทธ์ “Delulu” ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงจิตวิทยาของมนุษย์ และต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หากความเพ้อฝันนั้นถูกเปิดเผยว่าไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง ก็อาจจะยิ่งทำให้สถานการณ์ข่าวสารในภาวะสงครามเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากเพิ่มไปจากการปะทะกันทางกายภาพที่ดำเนินอยู่ ดังนั้น การสร้างความหวังบนพื้นฐานของความจริง ย่อมมีความยั่งยืนและแข็งแกร่งกว่าเสมอ