ธุรกิจล็อบบี้ยิสต์เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายของสหรัฐฯ และประเทศต่าง ๆ นิยมใช้บริษัทล็อบบี้ เพื่อเข้าถึง และโน้มน้าวรัฐและฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ เช่น ใช้บริษัทล็อบบี้เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯ ให้สิทธิทางภาษีแก่ประเทศของตน เช่นเดียวกับบริษัทล็อบบี้ของสหรัฐฯ ก็ต้องหาลูกค้าจากประเทศต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน บริษัทล็อบบี้ส่วนใหญ่อยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. และเรียกย่านที่ตั้งบริษัทล็อบบี้ว่า K Street และบริษัทล็อบบี้ที่จะได้รับความนิยม ต้องมีทีมงานที่เคยเป็นคนวงในของรัฐบาล หรือในสภาผู้แทนฯ หรือวุฒิสภา เพื่อจะได้รู้เส้นทางการติดต่อกับฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติ
นายไมเคิล บี.อัลฟาโร ก็เป็นล็อบบี้ยิสต์ ได้ก่อตั้งบริษัทชื่อ Capitol Hill & Friends ไม่ใช่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตามที่มีการกล่าวอ้าง นายอัลฟาโร เปิดเผยวิดีโอตนเองทางออนไลน์เมื่อ 16 สิงหาคม 2568 สนับสนุนกัมพูชา และกล่าวหาไทยว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชา จากกรณีขัดแย้งและปะทะทางทหารระหว่างกันเมื่อช่วงกรกฎาคม 2568 ส่วนการถ่ายรูปกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็เป็นช่วงการระดมทุนหาเสียง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ
นายไมเคิล บี.อัลฟาโร ไม่ใช่ล็อบบี้ยิสต์ที่กัมพูชาใช้บริการเป็นรายแรก กัมพูชาเคยใช้ล็อบบี้ยิสต์เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ที่คว่ำบาตรรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อดันตัวเองให้อยู่ในสายตาสหรัฐฯ และมีบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ
หลังเมียนมาเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2561 มีรายงานว่าเมื่อปี 2562 กัมพูชาได้ว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ 2 บริษัท เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ได้แก่ Brownstein Hyatt Farber Schreck ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง โดยจ่ายเดือนละประมาณ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเวลาประมาณ 1 ปี และว่าจ้างบริษัท PacRim Bridges LLC จ่ายปีละ 50,000 บาท
เมื่อปลายกันยายน 2564 ก็มีข่าวสารว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ว่าจ้าง Qorvis Communications จำนวน 69,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยคนลงนามจ้างคือ ออท.กัมพูชา/ประจำสหรัฐฯ เมื่อ 15 กันยายน 2564 เพื่อดูแลเรื่องการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์และเพื่อรักษาชื่อเสียงของกัมพูชาในสหรัฐฯ
เมื่อปี 2565 บริษัทกฎหมายของสหรัฐฯ ชื่อ Akin Gump Strauss Hauer Feld ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบริษัทล็อบบี้ที่มีชื่อเสียงอยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี.ก็ได้ลงนามทำสัญญา 1 ปีกับรัฐบาลกัมพูชา (เริ่มมกราคม 2565-มกราคม 2566) โดยได้รับค่าจ้างจากกัมพูชาในราคาเดือนละ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวม 720,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของกัมพูชากับสหรัฐฯ ให้ดีขึ้น จากที่เมื่อปลายปี 2564 สหรัฐฯ คว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อการส่งออกของกัมพูชา และเห็นความใกล้ชิดทางทหารระหว่างกัมพูชากับจีนมากขึ้น ซึ่งมีรายงานว่านาย Parven และนาย Ed Pagano ซึ่งอยู่ในทีมของ Akin Gump และทำการล็อบบี้ให้กับกัมพูชา เคยเป็นที่ปรึกษาประจำทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเป็นผู้ปะสานงานของรัฐบาลประจำวุฒิสภาสหรัฐฯ ด้วย
จะเห็นได้ว่า การดำเนินการในเชิงรุกของกัมพูชาในเวทีระหว่างประเทศ เป็นเป้าหมายของกัมพูชามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้บริษัทล็อบบี้ และล่าสุดในห้วงที่มีความขัดแย้งกับไทยจนถึงมีการปะทะกำลังทางทหารเมื่อกรกฎาคม 2568 กัมพูชาก็เปิดพื้นที่ให้สหรัฐฯ เข้าใกล้ประเทศตัวเองมากขึ้น ทั้งที่ใกล้ชิดกับจีน เพื่อหวังให้สหรัฐฯ เข้าข้างตนเอง มากกว่าไทย ทั้งชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568 รวมทั้งสนับสนุนการเสนอชื่อประธานาธิบดีทรัมป์ให้รับรางวัลสันติภาพ (Nobel Peace Prize) ซึ่งมีจอ (screen) หลายจอที่มีรูปประธานาธิบดีทรัมป์ที่สมควรได้รับรางวัลนี้อยู่ที่กลางกรุงพนมเปญ