![]()

กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐจีนหรือ Ministry of State Security (MSS) ออกคำเตือนเป็นระยะ ๆ ถึงการที่ข้อมูลของจีนจะตกเป็นเป้าหมายการจารกรรม ซึ่งมีหลากหลายวิธีการ โดย เมื่อสิงหาคม -กันยายน 2568 มีการเผยแพร่กรณีชาวจีนถูกหลอกให้ส่งมอบข้อมูลด้านความมั่นคงหลากหลายกรณี เช่น นักศึกษาชาวจีนที่ไปเรียนที่ไต้หวัน ถูกหลอกให้หลงรักก่อนเดินทางกลับจีน กรณีหน่วยงานด้านการจารกรรมของต่างชาติแสวงประโยชน์จากผู้ให้บริการส่งอาหารให้รวบรวมข้อมูลลับในจีน และกรณีสายลับต่างชาติขโมยข้อมูลใบหน้าของชาวจีนที่เป็นเป้าหมาย เพื่อนำไปเข้าถึงข้อมูลบุคคลและข้อมูลลับในที่ทำงาน รวมถึงใช้ใบหน้าที่ขโมยมาเพื่อทำการจารกรรมข้อมูล
ล่าสุด สื่อมวลชนจีนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2568 MSS เปิดเผยผลงานล่าสุดในการสกัดกั้นความพยายามของต่างประเทศที่ต้องการจารกรรมข้อมูลสำคัญของจีน ได้แก่ ข้อมูลพันธุกรรมพืชเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาสายพันธุถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวของจีน รัฐบาลจีนถือว่าข้อมูลดังกล่าว โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ลูกผสมที่มีคุณสมบัติเฉพาะ มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ เฉพาะอย่างยิ่งความมั่นคงทางอาหารและนวัตกรรมด้านเกษตรกรรม ที่มีความสำคัญอย่างมากต่อความอยู่รอดในอนาคต ดังนั้น การที่ต่างประเทศพยายามเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมีพฤติกรรมลักลอบนำข้อมูลนี้ออกไปเผยแพร่ เท่ากับเป็นภัยคุกคามและอันตรายต่อความมั่นคงของจีน
ข้อมูลเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์รุ่นแรก (parent seeds) ที่ใช้ในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ลูกผสม MSS ถือว่าเป็นข้อมูลลับที่สุด เพราะเป็นทรัพยากรสำคัญและ “กุญแจ” ที่จะพัฒนานวัตกรรมด้านเกษตรกรรมของจีน ให้สามารถสร้างผลผลิตทางเกษตรกรรมที่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศและต่างประเทศได้ ดังนั้น ทั้งข้อมูลและเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวจะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่หรือส่งออกไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม MSS ตรวจพบว่าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศพยายามใช้สายลับและปฏิบัติการลับเพื่อเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว ตลอดจนพยายามโน้มน้าวผ่านแอปพลิเคชัน WeChat ให้ชาวจีนส่งออกเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวไปต่างประเทศ เพื่อนำไปศึกษาและให้สามารถเข้าถึงข้อมูลวิทยาการด้านการเกษตรของจีน
วิธีการของหน่วยข่าวกรองต่างชาติที่พยายามจารกรรมข้อมูลสำคัญจากจีน คือ ความพยายามโน้มน้าวและจ้างวานให้บริษัทของชาวจีนในจีน ทำความร่วมมือกับรัฐบาลในฐานะหุ้นส่วน เพื่อขอซื้อเมล็ดพันธุ์รุ่นแรก โดยอ้างว่าจะร่วมผลิตเมล็ดพันธุ์ดังกล่าว ด้านชาวจีนที่ร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศนั้น ถูกชักจูงด้วย “เงินทุน” มหาศาล และข้ออ้างว่าบริษัทจะได้กำไรจากการดำเนินการครั้งนี้ ดังนั้น จึงตกเป็นเครื่องมือของหน่วยข่าวกรองต่างชาติ โดยพยายามส่งออกเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวไปต่างประเทศด้วยวิธีการซ่อนพรางเมล็ดพันธุ์ดังกล่าวไว้กับสินค้าส่งออกประเภทอื่น ๆ เท่ากับละเมิดกฎหมายส่งออกของจีน ปัจจุบัน รัฐบาลจีนสอบสวนและดำเนินคดีต่อเจ้าของบริษัทดังกล่าวแล้ว ต้องโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ ยังลงโทษบุคคลอีก 17 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการดังกล่าวด้วย
การเปิดเผยข้อมูลการสืบสวนและวิธีการของต่างชาติที่ต้องการจารกรรมข้อมูลสำคัญของจีนครั้งนี้ น่าจะมีเป้าหมายเพื่อเตือนให้บริษัทจีนระมัดระวังการติดต่อหรือความร่วมมือจากต่างประเทศ รวมทั้งการดูงานและเยี่ยมชมโรงงาน เพราะอาจมี “มือมืด” แฝงตัวเข้าไปเพื่อจารกรรมข้อมูล ซึ่งหากหน่วยข่าวกรองต่างประเทศดำเนินการสำเร็จ อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของจีน รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมด้านเกษตรกรรมของประเทศที่เป็นไปเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและความปลอดภัยของชาวจีน
ในระยะหลัง ๆ MSS กังวลการที่สายลับต่างชาติจารกรรมข้อมูลของจีนมากขึ้น ด้วยวิธีการหลากหลาย ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่ชาวจีนไม่ได้ระมัดระวัง หรือเป็นเรื่องปกติที่มีการเปิดเผย เช่น ข้อมูลส่วนตัวที่ซื้อของผ่านออนไลน์ ข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ติดตั้งชิปจากต่างชาติ การซื้อของที่ระลึกจากต่างชาติที่อาจมีอุปกรณ์สอดแนม และการถูกขโมยข้อมูลบุคคลผ่านระบบยืนยันตัวตนทางชีวภาพ เป็นต้น







