![]()

ไม่ว่าจะเป็นที่หวาดระแวงของประเทศต่าง ๆ มากน้อยแค่ไหน จีนยังคงมุ่งมั่นกับการสานต่อปฏิสัมพันธ์กับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็กหรือใหญ่ด้วยหลากหลายวิธีการและช่องทาง พื้นที่ที่จีนให้ความสำคัญและน่าจับตามองการรุกคืบของจีนไม่น้อยคือ ประเทศแถบหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งการเคลื่อนไหวของจีนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ประเทศใหญ่ทั้งในและนอกภูมิภาค เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ประเทศในยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือและส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลแข่งขันกับจีน
การเข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศของจีน ไม่ว่าจะมิติไหนก็เป็นที่จับตามองของบรรดาประเทศชั้นนำ ทั้งในเอเชียและตะวันตก และจะยิ่งเพิ่มขึ้นหากเป็นความช่วยเหลือด้านการทหาร อย่างไรก็ดี จีนยังคงเดินหน้าเสริมสร้างบทบาทดังกล่าวในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาในกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global South) เฉพาะอย่างยิ่งการเข้าไปให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและการบรรเทาทุกข์ยามเมื่อเกิดภัยพิบัติ ที่เป็นภารกิจโดดเด่นของจีน ที่น่าสนใจคือ หมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จีนเข้าไปเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยิ่งน่าสนใจมากขึ้นจากการที่จีนมุ่งให้ความช่วยเหลือและความร่วมมือด้านความมั่นคงผ่านหน่วยงานตำรวจของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกเกือบทุกประเทศ
ความช่วยเหลือและความร่วมมือของจีนมีทั้งการสนับสนุนอุปกรณ์ และการจัดการฝึกอบรม เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถให้บุคลากรตำรวจ เช่น การจัดสรรเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พร้อมส่งทีมไปช่วยฝึกการใช้งานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรของวานูอาตู หรือการส่งมอบเรือตรวจการณ์ 7 ลำให้วานูอาตู ซึ่งนายกรัฐมนตรี Jotham Napat ของวานูอาตู กล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่นและความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ ส่วนหมู่เกาะโซโลมอนก็ได้รับความช่วยเหลือจากจีนในการควบคุมการจลาจล การสืบสวนการหลอกลวงออนไลน์ และการจัดการจราจรมาตั้งแต่ปี 2564 นอกจากนั้นยังมีการสนับสนุนอุปกรณ์สำหรับการปฏิบัติงานภาคสนาม โดรน และอุปกรณ์อื่น ๆ รวมทั้งมีการปรับใช้การปฏิบัติการของจีนเป็นตัวแบบในการรักษาความปลอดภัย เช่น การรวบรวมข้อมูลประชากรเพื่อควบคุมความไม่สงบในสังคม ขณะที่ซามัว จีนเข้าไปสนับสนุนการสร้างสถาบันฝึกตำรวจแห่งแรก ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อปี 2567 และมีผู้ที่ผ่านการฝึกชุดแรกเมื่อกรกฎาคม 2568 ด้านคีรีบาติได้รับการสนับสนุนจากจีนในการจัดการข้อมูลอาชญากรรม
จีนมีความร่วมมือด้านตำรวจกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกอย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากตำรวจเป็นหน่วยความมั่นคงหลักสำหรับประเทศแถบนั้น โดยตั้งแต่ปี 2565 จีนพยายามผลักดันข้อตกลงพหุภาคีด้านความมั่นคงครอบคลุมหน่วยงานตำรวจและความร่วมมือทางไซเบอร์ รวมทั้งมีข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคี ซึ่งการผลักดันความร่วมมือผ่านหน่วยงานดังกล่าวถือเป็นช่องทางหลักของจีนในการขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก
ที่ผ่านมาประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกได้รับความช่วยเหลือจากจีนไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละประเทศ ส่วนใหญ่เป็นความช่วยเหลือด้านเทคนิคและเครื่องมือหรืออุปกรณ์ เช่น รถยนต์ เครื่องมือควบคุมฝูงชน โดรน วิทยุ การฝึกอบรมและการให้คำแนะนำ เช่น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานและทีมที่ปรึกษาประจำการที่หมู่เกาะโซโลมอนตั้งแต่ปี 2564 หรือในปี 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนเข้าไปช่วยฝึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของคีรีบาติ วานูอาตู ฟิจิ และหมู่เกาะโซโลมอน การดำเนินการดังกล่าวทำให้จีนมีภาพเป็นพันธมิตรด้านการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย (policing partner) อย่างโดดเด่น ประกอบกับจีนย้ำว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นเป็นความร่วมมือปกติด้านการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคง การสนับสนุนที่เกิดขึ้นเป็นไปตามการร้องขอ ความต้องการ และความจำเป็นบนพื้นฐานของการปรึกษาหารืออย่างเท่าเทียม เพื่อปรับปรุงศักยภาพด้านการบังคับใช้กฎหมายของประเทศนั้น ๆ ดังนั้น การเข้าไปมีบทบาทของจีนผ่านภารกิจของตำรวจจึงได้รับการยอมรับจากประเทศในภูมิภาคได้ไม่ยาก เนื่องจากช่วยเติมเต็มการพัฒนาศักยภาพในมิติดังกล่าว ขณะเดียวกันก็ตอบโจทก์ของจีนในเชิงยุทธศาสตร์ความมั่นคงในต่างประเทศและความมั่นคงทางทะเล
การขยายความร่วมมือของจีนกับหน่วยงานตำรวจ ที่ได้รับการยอมรับจากประเทศเล็กประเทศน้อยแถวนั้น สร้างความไม่สบายใจให้ประเทศตะวันตกทั้งสหรัฐฯ และประเทศในยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ที่มีอิทธิพล ในแถบหมู่เกาะแปซิฟิกอยู่เดิม เนื่องจากกังวลว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้จีนขยายอิทธิพลในพื้นที่ นอกเหนือจากที่จีนมีความได้เปรียบจากการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศแถบนั้นอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน การรุกคืบของจีนก็เป็นแรงผลักดันให้บรรดาประเทศตะวันตกต้องขยายความร่วมมือกับประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกเช่นกัน เพื่อคานอิทธิพลจีน
ตัวอย่างเช่น ตำรวจสากล (Interpol) เริ่มผลักดันการจัดตั้งที่ทำการแห่งแรกในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หรือออสเตรเลียที่มีความร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจเกือบทุกประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกอยู่แล้ว ก็เพิ่มการสนับสนุนและยกระดับความร่วมมืออย่างเป็นทางการ โดยเมื่อปี 2567 ออสเตรเลียเริ่มดำเนินการตามแผน Pacific Policing Initiative ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศในภูมิภาค ด้วยการให้เงินสนับสนุนสำหรับการฝึกบุคลากรทั้งศูนย์ฝึกหลักที่เมืองบริสเบน และศูนย์ฝึกระดับภูมิภาคอีก 4 แห่งในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก รวมถึงจัดตั้ง Pacific Police Support Group เป็นทีมฉุกเฉินเมื่อเกิดวิกฤติ กับทั้งยังแข่งกับจีนในการให้ความช่วยเหลือประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น บริจาครถยนต์ให้แก่สำนักงานตำรวจหมู่เกาะโซโลมอน
การรุกขยายความร่วมมือของต่างชาติกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก แม้เป็นประโยชน์ในการพัฒนา แต่หลายประเทศก็กังวลการเข้าไปพัวพันกับการเลือกข้างทางการเมืองระหว่างประเทศ หรือถูกตีความความร่วมมือหรือการรับความช่วยเหลือเป็นการเลือกข้าง โดยบางประเทศเลือกที่จะจำกัดหรือปฏิเสธการเสนอให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะมาจากจีนหรือประเทศอื่น เช่น ฟิจิระงับความร่วมมือด้านตำรวจกับจีนเมื่อปี 2565 และส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนกลับ เนื่องจากกังวลว่าจีนจะเข้ามาสอดส่องความเคลื่อนไหวของคนจีนในฟิจิ ซึ่งจะเป็นการละเมิดอธิปไตยของฟิจิ แต่สุดท้ายก็คงความร่วมมือกันต่อไป หรือการที่วานูอาตูไม่จัดทำความตกลงด้านความมั่นคงกับออสเตรเลีย เพื่อไม่ให้เป็นการจำกัดโอกาสการร่วมมือกับประเทศอื่น อย่างไรก็ตาม บางประเทศก็เปิดรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ เพื่อให้เข้ามาช่วยอุดช่องว่างที่ตนเองขาดศักยภาพ เช่น ซามัว ที่จีนเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของซามัวที่ต้องการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือปาปัวนิวกินีที่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติในการปราบปรามอาชญากรรมยุคใหม่ เช่น การฟอกเงิน
ในห้วงปัจจุบันและอนาคต ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจและการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์จะยังเป็นเงื่อนไขและข้อจำกัดสำคัญสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเล็กที่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติ เช่นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก เพื่อโอกาสในการพัฒนา แต่ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ซึ่งความกระอักกระอ่วนใจดังกล่าวจะยังเกิดขึ้นกับประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศแทบจะทุกประเทศต่อไปท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจที่ยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย







