![]()

สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมอเมริกัน เพราะชาวอเมริกันจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ และบางส่วนกลายเป็นผู้ร่วมขบวนการเพราะถูกหลอกลวงให้ไปทำงานกับองค์กรค้ามนุษย์… โดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ประกาศเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2568 ตั้งหน่วย Scam Center Strike Force ซึ่งมีความชัดเจนเลยว่า ภารกิจ คือ การสืบสวน สกัดกั้นและดำเนินคดีต่อกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ที่เป็นภัยคุกคามต่อชาวอเมริกัน เน้นการป้องกันไม่ให้ชาวอเมริกันเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจากสแกมเมอร์ และการหลอกลวงให้ไปลงทุนในเงินสกุลคริปโต เฉพาะอย่างยิ่งจากเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในเมียนมา กัมพูชา และลาว
แม้ว่าเครือข่ายอาชญากรรมออนไลน์จะมีขึ้นอยู่ทั่วโลก แต่ครั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังพุ่งเป้าหมายไปที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราอย่างชัดเจน!! ..ปัจจัยสำคัญอาจเป็นเพราะมีอาชญากรสัญชาติจีน หรือที่สหรัฐฯ เรียกว่า Chinese Transnational Criminal Organizations เข้าไปเกี่ยวข้อง จึงทำให้สหรัฐฯ ที่มองว่า “จีน” เป็นความท้าทายอยู่แล้วเพ่งเล็งพื้นที่นี้มากเป็นพิเศษ ดังนั้น การตั้งหน่วย Scam Center Strike Force ที่เกี่ยวพันกับเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยี อาชญากรรมระหว่างประเทศ และคู่แข่งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ จึงเป็นแนวคิดที่ผสมผสานทั้งการบริหารจัดการภัยคุกคามจากภายนอก ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติ และการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม (comprehensive security) ที่เน้นการบริหารจัดการที่ครอบคลุมทุกมิติอย่างสมดุล เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามและความท้าทาย
หน่วย Scam Center Strike Force ของสหรัฐฯ จะประกอบด้วยอำนาจทาง “กฎหมาย” และ “การสืบสวน” รวมทั้ง “ความร่วมมือระหว่างประเทศ” เพราะจะมีเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายในการสืบสวน และการดำเนินการตามกฎหมาย ไปร่วมงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นและดำเนินคดีต่อกลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ที่เป็นภัยคุกคามต่อชาวอเมริกัน โดยแต่ละหน่วยงานจะคัดสรรเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งภาคเอกชน ให้ไปร่วมมือกันทำงานที่สำนักงานในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กับสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ สังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐฯ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแบบแผนการที่จะทำให้ชาอเมริกันปลอดภัยจากกลุ่มสแกมเมอร์ต่างชาติ ที่ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยงอย่างดีในสหรัฐฯ และการเติบโตของตลาดเงินสกุลดิจิทัลในสหรัฐฯ เพื่อก่ออาชญากรรม
อาชญากรรมที่สหรัฐฯ มีมุมมองว่าเป็นอันตรายที่สุด คือ การหลอกให้ลงทุนในคริปโตเคอเรนซี โดยใช้กลลวงเชือดหมู (pig butchering) หรือการวางแผนลวงให้ไว้วางใจเพื่อให้ตกหลุมพรางการโกงในการลงทุนเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งกลุ่มอาชญากรจะหลอกว่าเป็นการลงทุนในสหรัฐฯ แต่แท้จริงแล้วเป็นการส่งเงินไปยังศูนย์มิจฉาชีพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เต็มไปด้วย “แรงงานเหยื่อค้ามนุษย์” ที่ถูกหลอกให้ไปทำงาน..เพื่อสร้างรายได้มหาศาลให้อาชญากรชาวจีน
การทำงานของหน่วย Scam Center Strike Force ไม่ได้จำกัดแค่ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะประเทศแห่งนี้ตระหนักดีอย่างมากว่า ภาคเอกชนและบริษัทต่าง ๆ มีบทบาทสำคัญในการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่สาธารณะ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้ประชาชน รวมทั้งเสริมความสามารถในการป้องกันไม่ให้ระบบโทรคมนาคมหรือโครงข่ายอินเทอร์เน็ตของสหรัฐฯ ถูกแทรกซึมได้โดยง่าย ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์จึงจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวที่เป็นอันตราย และรายงานให้หน่วยงานภาครัฐรู้โดยเร็วเพื่อให้ตอบสนองได้อย่างทันท่วงที เพราะทั่วโลกรู้ดีแล้วว่า …ปัจจุบันสแกมเมอร์ หรือมิจฉาชีพนั้นมีเทคนิคและวิธีการหลอกลวงที่เหนือชั้นอย่างมาก ดังนั้น Scam Center Strike Force จะมีภารกิจหลายชั้น ทั้งการแจ้งเตือน สร้างความตระหนักรู้ และการสกัดกั้นป้องกันภัยคุกคาม
หน่วย Scam Center Strike Force เริ่มภารกิจโดยทันที โดยจะใช้ทุกเครื่องมือที่มีเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของชาวอเมริกัน ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือนั้น คือ การให้ความรู้แก่พลเรือน และความร่วมมือกับภาคเอกชน ที่เป็นสิ่งสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ว่าภัยคุกคามนั้นจะมาจากในประเทศหรือต่างประเทศ นอกจากนี้ จุดเด่นของทีม Scam Center Strike Force คือการนำทรัพย์สินคืนให้กับเหยื่อด้วย
ปัจจุบันเรามีข้อมูลว่าสหรัฐฯ แบ่งทีมงานเป็นคดี ๆ สำคัญ และที่น่าสนใจ คือ บางส่วนมีความร่วมมือกับไทยแล้ว สำหรับการปฏิบัติงานที่ผ่านมาที่มีผลงานชัดเจน ได้แก่ ทีม Crypto Seizure ทำหน้าที่ตรวจสอบและอายัดคริปโตเคอเรนซีที่มีแนวโน้มจะถูกหลอกไปลงทุน จากนั้นจะคืนให้กับเหยื่อ ทีมภูมิภาค ซึ่งสอบสวนอาชญากรรมออนไลน์ในเมืองบาหลี อินโดนีเซีย ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มสแกมเมอร์ในกัมพูชา และมีพฤติกรรมหลอกลวงชาวอเมริกันมากกว่า 150 ราย ทีมเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ที่เดินทางไปร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเพื่อป้องปรามอาชญากรรมดังกล่าวในภูมิภาค โดยเฉพาะเครือข่าย KK Park ในเมียนมา และทีมเมียนมา ซึ่งมีผลงานล่าสุด คือ การปฏิบัติการปราบปรามแหล่งสแกมเมอร์ในเมียนมา 2 แห่ง และส่งผลให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรองค์กรและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าวด้วย
การตั้งหน่วยงาน Scam Center Strike Force ขึ้นมาเพื่อดำเนินการประเด็นนี้โดยเฉพาะ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนเลยว่าประเด็นการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์จะเป็นเรื่องที่สหรัฐฯ ใช้เป็นประเด็นหารือและแสวงหาความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป รวมทั้งไทย เนื่องจากมีข้อสังเกตว่าปัจจุบันสหรัฐฯ มีมุมมองว่าศูนย์กลางการก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่หลอกลวงชาวอเมริกันอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านรอบไทย ทั้งเมียนมา ลาว และกัมพูชา ซึ่งเมื่อ 14 ตุลาคม 2568 สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรก็ประกาศอายัดอายัดบิทคอยน์ (Bitcoin) มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากตรวจสอบแล้วเชื่อว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรออนไลน์ในกัมพูชา พร้อมทั้งยื่นฟ้องเมื่อ 14 ตุลาคม 2568 ต่อนาย Chen Zhi ชาวกัมพูชาที่เป็นประธานบริษัท Prince Group ในกัมพูชา ในข้อหาเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์และการฟอกเงิน
รูปแบบและแนวคิดการตั้งหน่วย Scam Center Strike Force ของสหรัฐฯ อาจบอกได้ว่าสหรัฐฯ ต้องการอะไรจากไทย และเป็นตัวอย่างให้ไทยใช้ในการดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาค ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจ และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อความปลอดภัย







