เว็บไซต์ นสพ.The National News รายงานเมื่อ 26 พ.ค.65 อ้างข้อมูลของศูนย์การแข่งขันและสถิติแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates – UAE) ว่า การค้าต่างประเทศที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) ของ UAE ห้วง ม.ค.-มี.ค.65 มีมูลค่ารวมสูงถึง 499,970 ล้านดิรฮัม (ประมาณ 13,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันของเมื่อปี 2564 โดยสินค้าอันดับต้น ๆ คือ ทองคำที่มีมูลค่าการค้าประมาณร้อยละ 17 ของการค้าทั้งหมด รองลงมาเป็นเพชร โทรศัพท์และอุปกรณ์สื่อสาร
ขณะเดียวกันห้วง ม.ค.-มี.ค.65 จีนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของ UAE โดยมีมูลค่าการค้าทวิภาคีอยู่ที่ 57,000 ล้านดิรฮัม รองลงมาคือ อินเดีย และซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ เชค มุฮัมมัด บิน รอชิด อาลมักตูม เจ้าผู้ครองรัฐดูไบ รองประธานาธิบดี และ นายกรัฐมนตรี UAE ทรงระบุเมื่อ 22 พ.ค.65 ว่า การค้าต่างประเทศที่ไม่ใช่น้ำมันของ UAE ห้วงปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เป็น 19,000 ล้านล้านดิรฮัม ซึ่งสูงกว่ามูลค่าการค้าเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ร้อยละ 10
นอกจากนี้เมื่อ ก.พ.65 UAE ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมกับอินเดียซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย คาดว่าจะเพิ่มมูลค่าการค้าที่ไม่ใช่น้ำมันระหว่างสองประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ปีละประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 อีกทั้ง UAE ยังอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงทางเศรษฐกิจกับเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย ในลักษณะเดียวกันกับอินเดีย