สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานเมื่อ 1 พ.ค.66 ว่า นาย Mohammadi Bakhsh หัวหน้าองค์การการบินพลเรือน (Civil Aviation Organization – CAO) ของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านสั่งซื้อและได้รับเครื่องบินโดยสารและเฮลิคอปเตอร์ใช้แล้ว รวมประมาณ 50 ลำ ตั้งแต่ พ.ย.64-เม.ย.66
ในจำนวนนี้ เครื่องบิน 20 ลำ ผ่านการตรวจสอบและนำมาใช้งานแล้ว โดยอิหร่านจำเป็นต้องมีเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ ประมาณ 550 ลำ จากปัจจุบันมีเครื่องบินประจำการอยู่ 180 ลำ (ในจำนวนนี้ 68 ลำ มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 10 ปี และ 38 ลำ มีอายุการใช้งาน 2-5 ปี) เพื่อให้อุตสาหกรรมการบินของอิหร่านที่สหรัฐฯ บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ทำให้อิหร่านพยายามซ่อมแซมและนำเครื่องบินที่จอดทิ้งไว้บางส่วนกลับเข้าประจำการ และพิจารณาจัดซื้อเครื่องบินพิสัยกลางเพิ่มเติมเพื่อประคองสายการบินขนาดเล็ก
ทั้งนี้ อิหร่านเคยสั่งซื้อเครื่องบินจากบริษัท Airbus ของฝรั่งเศส และบริษัทBoeing ของสหรัฐฯ รวม 200 ลำ หลังจากบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action – JCPOA) กับ P5+1 (สมาชิกถาวร UNSC 5 ประเทศและเยอรมนี) เมื่อปี 2558 แต่สัญญาสั่งซื้อดังกล่าวถูกระงับ เนื่องจากสหรัฐฯ ถอนตัวจาก JCPOA และบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวต่ออิหร่านในภาคเศรษฐกิจสำคัญ