กองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮะมาสเริ่มปฏิบัติการทางทหารโจมตีกันรอบใหม่ ภายหลังสิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว เป็นระยะเวลา 7 วัน เพราะกลุ่มฮะมาสระบุว่าปล่อยตัวประกันที่เป็นสตรีและเด็กแล้ว สำหรับการโจมตีรอบใหม่นี้ กองทัพอิสราเอลขยายการโจมตีภาคพื้นดินทั่วพื้นที่ฉนวนกาซา โดยเฉพาะพื้นที่ Khan Younis ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงและความขัดแย้งครั้งนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่าชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเสียชีวิตอย่างน้อย 700 คน จากการปฏิบัติการของอิสราเอลเมื่อ 3 ธ.ค.66 ขณะเดียวกัน มีรายงานว่ากองทัพอิสราเอลเริ่มปิดล้อมพื้นที่บริเวณตอนเหนือของเขตเวสต์แบงก์ โดยลาดตระเวนทางอากาศบริเวณดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและเริ่มจับกุมชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าว
ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของนานาชาติต่อพลเรือนในฉนวนกาซายังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดในพื้นที่ เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขได้รับผลกระทบจากสงคราม ทำให้ประเทศต่าง ๆ ยังพยายามเพิ่มความช่วยเหลือ รวมทั้งเร่งสนับสนุนให้เกิดการปล่อยตัวประกันเพิ่มต่อไป โดยมีรายงานว่าสหรัฐฯ และกาตาร์กำลังหารือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือตัวประกัน และเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ ด้านผู้นำฝรั่งเศสจะเยือนกาตาร์ เพื่อสนับสนุนการหยุดยิงชั่วคราวอีกครั้ง ปัจจุบันมีรายงานว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในฉนวนกาซาจำนวน 137 คน
กองกำลังติดอาวุธในพื้นที่อื่น ๆ เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีอิสราเอล ที่สำคัญ คือ กลุ่มฮูษีในเยเมนยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเรือพลเรือนและเรือรบที่อยู่ในทะเลแดง เพื่อส่งสัญญาณสนับสนุนปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ซึ่งสกัดการโจมตีดังกล่าวได้ เชื่อว่ากลุ่มฮูษีจะไม่ท้าทายกองทัพอิสราเอลไปมากกว่านี้ แต่จะก่อเหตุในระดับที่ก่อกวนความมั่นคงของอิสราเอลเป็นระยะ ๆ
สถานการณ์ความรุนแรงและการปะทะยังไม่มีแนวโน้มจะยุติได้ในเร็ว ๆ นี้ พิจารณาจากการที่อิสราเอลถอนตัวผู้แทนการเจรจาจากการพูดคุยกับกาตาร์และอียิปต์ ขณะที่กองทัพอิสราเอลประกาศว่าจะกำจัดสมาชิกกลุ่มฮะมาสระดับผู้บัญชาการทหาร เพื่อทำลายขีดความสามารถของกลุ่มและไม่ให้กลับไปเป็นภัยคุกคามของอิสราเอล โดยล่าสุดเมื่อ 4 ธ.ค.66 มีรายงานว่า กองทัพอิสราเอลสังหารสมาชิกระดับผู้บัญชาการของกลุ่มฮะมาสได้ จากการโจมตีทางอากาศ โดยเป็นสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค.66