สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อ 26 ม.ค.67 ว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เยือนไทย ระหว่าง 26-29 ม.ค.67 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศในหลากหลายสาขา อาทิ การค้า การลงทุน ความมั่นคง วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยมีกำหนดพบหารือกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี การเข้าร่วมประชุมกลไกหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศไทย-จีน ครั้งที่ 1 และลงนามความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาและ หนังสือเดินทางราชการ
ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า นายหวัง อี้ จะหารือกับนาย Jake Sullivan ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ที่จะเดินทางมาพบที่ไทย ระหว่าง 26-27 ม.ค.67 โดยระบุว่า เป็นการสานต่อคำมั่นที่ผู้นำของสองฝ่ายเห็นพ้องกันในการประชุมสุดยอดที่สหรัฐฯ เมื่อ พ.ย.66 ที่จะคงการสื่อสารและบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ทั้งนี้ ปรากฏรายงานข่าวสารว่า ประเด็นหารือหลักจะเกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลแดงและประเด็นไต้หวัน เฉพาะอย่างยิ่งการเรียกร้องให้จีนดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ ด้วยการใช้ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเจรจากับอิหร่านให้ระงับการสนับสนุนด้านอาวุธแก่กลุ่มกบฏ Houthi เพื่อไม่ให้สถานการณ์ในทะเลแดงลุกลามบานปลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากการค้าประมาณร้อยละ 15 ของโลกใช้เส้นทางขนส่งผ่านทะเลแดง อาทิ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ธัญพืช หากจะต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอ้อมผ่านแหลมกู๊ดโฮปในทวีปแอฟริกาจะมีระยะทางเพิ่มขึ้น 4,000 ไมล์ (ประมาณ 6,437 กิโลเมตร) และเพิ่มต้นทุนการขนส่งทางเรือถึง 3 เท่า