นายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด ชเตย์เยห์ (Mohammed Shtayyeh) ของปาเลสไตน์ ซึ่งสังกัดองค์การบริหารปาเลสไตน์ (PA) มีหน้าที่บริหารดินแดนปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา ตามข้อตกลงกรุงออสโล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 26 ก.พ.67 พร้อมกับคณะรัฐบาล ระหว่างการประชุมที่เมือง Ramallah ในเขตเวสต์แบงก์ เพื่อเปิดทางให้มีการบริหารจัดการรูปแบบใหม่สำหรับแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในฉนวนกาซา โดยนายกรัฐมนตรี Shtayyeh ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคง การเมืองและเศรษฐกิจที่ชาวปาเลสไตน์กำลังเผชิญ โดยตัวเขาเชื่อว่าการเมืองอปาเลสไตน์จะต้องก้าวต่อไป ด้วยการมีรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อจัดการการพูดคุยและหาฉันทามติร่วมกันของชาวปาเลสไตน์ ด้านประธานาธิบดี Mahmoud Abbas ของปาเลสไตน์ตอบรับการลาออกดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี Shtayyeh จะยังปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ คาดว่าผู้ที่อาจดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปาเลสไตน์คนต่อไป คือ นาย Mohammed Mustafa ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสในธนาคารโลก และเป็นประธาน Palestine Investment Fund
สื่อมวลชนจำนวนมากประเมินว่า การลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีองค์การบริหารปาเลสไตน์เป็นผลจากการกดดันของสหรัฐอเมริกา ที่ส่งสัญญาณให้ประธานาธิบดี Abbas ปฏิรูปองค์การบริหารปาเลสไตน์ เพื่อบริกหารจัดการความมั่นคงดินแดนปาเลสไตน์หลังความขัดแย้งครั้งนี้สิ้นสุดลง เพื่อให้บทบาทขององค์การบริหารปาเลสไตน์เข้มแข็งมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมบทบาทของภาคประชาสังคม การปราบปรามคอร์รปชัน และส่งเสริมเสรีภาพของสื่อมวลชน
ความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของปาเลสไตน์อาจไม่มีผลเปลี่ยนแปลงต่อสถานการณ์ความรุนแรงและความขัดแย้งในฉนวนกาซา โดยยังคงมีรายงานการโจมตีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สื่อรายงานเมื่อ 27 ก.พ.67 ความคืบหน้าการเจรจาเพื่อหยุดยิงชั่วคราว ประกอบด้วยการประเมินของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าอาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนอิสราเอลเริ่มส่งผู้แทนไปเจรจาที่กรุงโดฮา กาตาร์ ซึ่งการหยุดยิงครั้งนี้น่าจะครอบคลุมการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ แลกกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลประมาณ 40 คน