เป็นเรื่องเสียหน้า ..ที่ทหารพม่าถูกตีค่ายแตก ต้องหนีพ่ายมายืนตามรั้วให้นักข่าวฝั่งไทยแอบถ่ายรูปไปลงสื่อ..
ไม่มีเสียหรอกที่จะไม่เอาคืน แต่ที่มันช้าเพราะพลเอกโซวิน ผู้บัญชาการทหารบก ที่ถูกส่งมาบัญชาการรบอยู่ที่มะละแหม่ง เพื่อเปิดยุทธการรบใหญ่ยึดเอาเมียวดีกลับคืนมา กลับถูกโดรนระเบิดสังหารของฝ่ายต่อต้านเสียก่อน เขาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะต้องกลับไปรักษาตัวที่ย่างกุ้งด่วน ตอนนี้ก็ถือว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด แต่เชื่อว่าวันสองวันนี้กองทัพพม่าต้องทำอะไรสักอย่างซึ่งอาจเป็นการโจมตีด้วยกำลังทางอากาศเพื่อกู้ศักดิ์ศรีทหารพม่าคืนมาก่อน ไม่งั้นลูกน้องจะพากันเสียขวัญหมด
สภาพของเมียวดี วันนี้ โดยทั่วไปยังดูเป็นปกติแต่ภายนอก แต่ประชาชนหาได้เป็นปกติไม่ ใจมีแต่ความวิตกกังวล ด้านหนึ่งก็คิดไปถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วส่งกระทบต่อชีวิตประจำวัน แม้เดาได้ว่าจะมีการสู้รบแต่ก็ไม่รู้ว่าจะรุนแรงยื้ดเยื้อเพียงใด แต่ก็คุ้นชินกับสถานการณ์และรู้ทางหนีทีไล่ดี ยังไงก็ข้ามมาหลบลูกปืนที่ฝั่งไทยไว้ก่อน
ว่าด้วยเรื่องโดรนระเบิดสังหาร ถือเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพมาก บินไปเที่ยวเดียวไม่มีกลับแบบกามิกกาเซ่สมัยสงครามโลกเลยทีเดียวแต่ดีกว่าที่ไม่สูญเสียชีวิตคนแถมยังมีกล้องและ GPS ถล่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ในสงครามยูเครน ซีเรีย อิรัก เยเมน มีการใช้โดรนสังหารเยอะมากและของดีราคาถูกก็ต้องโดรนอิหร่าน เอามาใช้กันอย่างกว้างขวางแต่ไม่ค่อยมีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าของ หรือผู้ใช้ เพราะกลัวโลกประณาม สำหรับโดรนที่ใช้ในพม่า ถ้าเป็นของดีจากทางตะวันตกก็จะอยู่ในมือกลุ่ม PDF หากเป็นพวกกะเหรี่ยง KNU ส่วนใหญ่ก็เป็นโดรนแสวงเครื่อง สั่งลาซาด้าบ้างโดรนเกษตรบ้างมาดัดแปลงเอา จะมีก็กลุ่มกอทูเลของเนอดาที่อาจมีของนอกบ้างเพราะไปอเมริกาบ่อย
ตอนที่พัน 275 ค่ายผาซองตั้งรับการโจมตีนั้น เขาก็อุตส่าห์ออกไปรอนอกฐานขุดบังเกอร์ตั้งปืนกลและสไนเปอร์ไว้ซุ่มยิงพวกกะเหรี่ยงที่จะเข้าตีฐาน แต่เชิงการรบมันผิดกัน พวกกะเหรี่ยงเขารบในป่ามาตลอดจึงประสบการณ์สูง เขาไม่ผลีผลามแต่ใช้โดรนสังหารนี่แหล่ะจัดการกับหลุมบังเกอร์เรียบร้อยก่อนเข้ายึดฐานได้เมื่อ 4 ทุ่มของวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา นี่คือประโยชน์ของโดรน..
การสูญเสียพื้นที่เมียวดี ก่อให้เกิดคำถามใหญ่ๆ ตามมาเกี่ยวกับอนาคตของตั๊ทมะดอว์กับการบริหารจัดการพื้นที่ในฝั่งรัฐกะเหรี่ยงต่อไปข้างหน้า
ประเด็นแรก สถานะของกองทัพพม่ายังมั่นคงไม่สั่นคลอน ไอ้เรื่องที่บอกว่าชนกลุ่มน้อยจะรวมกันตีมาถึงเนปิดอว์อันนี้เป็นข่าวไอโอ อย่าเชื่อมาก ชนกลุ่มน้อยแค่รบในพื้นที่ตัวเองก็เอาให้ได้ก่อน ถ้าพม่าเขาทุ่มกำลังรบขึ้นมาจริงๆ ตรงไหนก็บดขยี้ได้ ถัดมา อุดมการณ์และผลประโยชน์ของชาติพันธุ์แต่ละกลุ่มนั้นแตกต่างกัน ตอนนี้ยังไม่มีการคุยหาจุดร่วมกันและคงไม่ง่าย ขอให้ดูตัวอย่างกระบวนการสันติภาพในอดีตที่ล้มไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ตาม แม้ทหารพม่ายังมั่นคงแต่การสูญเสียพื้นที่ต่อเนื่องกับการพ่ายแพ้ในการรบย่อยๆบ่อยครั้งเข้าย่อมส่งผลต่อขวัญกำลังใจของกำลังพลและกัดเซาะความมั่นใจของผู้นำ หากแก้ไขไม่ดี ไม่ทัน ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ
มาดูที่สถานะของผู้นำ มินอ่องไหล่ง์ …ในห้วง 3 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญแรงกดดันมากมาย ถูกแซงชั่น ถูกประณามเป็นอาชญากรจากต่างประเทศ ตะวันตก ยูเอ็น โดยเฉพาะอาเซียน กับถูกต่อต้านจากประชาชนในประเทศ ถ้าไม่แข็งแกร่งจริงอยู่ไม่ได้และตอนนี้นอกจากโซวินที่เป็นรองตามตำแหน่งแล้วก็ยังไม่มีใครที่ถูกวางตัวเป็นทายาท เคยมีโมมิ้นทุน นายทหารดาวรุ่ง ที่น่าจะสืบทอดได้ก็มาโดนข้อหาคอรัปชั่นติดคุกไปเสียก่อนนัยว่าเป็นการเก็บกวาดตัวเองของผู้นำ
หลายเดือนมานี่นับตั้งแต่ถูกการปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มโกกั้ง ตะอ่าง และอาระกัน ที่นอกจากจะเสียพื้นที่ เสียหน้า แล้วยังเสียความรู้สึกกับจีนอีก เหล่านี้ก็คงทำให้มินอ่องไหล่ง์รู้สึกไม่สบายใจจึงหันไปพึ่งพระพึ่งเจ้า และศาสนา แต่พระพม่านี่คือผู้ชี้นำทางการเมืองตัวตึงเลย คนพม่าเชื่อฟังพระฟังเจ้านะจะบอกให้ เมื่อเร็วๆ นี้มีพระดังรูปหนึ่งท่านบอกว่าโซวินเหมาะจะเป็นผู้นำกองทัพ ส่วนมินอ่องไหล่ง์ควรเป็นหัวหน้าฝ่ายพลเรือนมากกว่าเล่นเอาท่านผู้นำเคืองแต่ก็มีวิธีจัดการกับพระแบบนุ่มนวล สรุปว่าภายในประเทศ ยังไม่มีอะไรมาสั่นคลอนสถานะของมินอ่องไหล่ง์ได้ในขณะที่มีกลไกจับตาดูและมีวิธีการจัดการความท้าทายออกไปทันที ถ้าจะมีปัจจัยอะไรที่มีอิทธิพลต่อนายพลมินอ่องไหล่ง์ก็น่าจะเป็นอิทธิพลจากต่างประเทศโดยเฉพาะจีนมากกว่า
ประเด็นที่สอง พื้นที่รัฐกะเหรี่ยงส่วนใหญ่เป็นเขตติดต่อกับไทย หากเกิดสถานการณ์ไม่สงบขึ้นย่อมมีผลกระทบโดยตรงกับเรา อย่างน้อยๆ ก็เรื่องผู้หนีภัยการสู้รบซึ่งฝ่ายเราคงต้องเตรียมพื้นที่กับความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมกับมาตรการจัดการ นอกจากนี้ในส่วนของความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมจากภายนอกที่จะผ่านไทยเราเข้าไปในพม่าตอนใน ก่อนนี้เคยออกแบบไว้อย่างหนึ่งมาตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป กะเหรี่ยงยึดครองพื้นที่ได้มากกว่าพม่าก็ต้องมาออกแบบกันใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สิ่งของความช่วยเหลือส่งไปถึงผู้ประสบภัยที่แท้จริง
อันที่จริงพื้นที่เมียวดีก็ยึดครองโดยกะเหรี่ยงอยู่แล้ว การปฏิบัติการของทหารกะเหรี่ยงในเมียวดีเมื่อ 2 วันก่อนเป็นเพียงการ “ขับไล่” ทหารพม่าออกไปจากพื้นที่เท่านั้น แต่ลำพังกะเหรี่ยงเองคงไม่สามารถขับเคลื่อนเมืองทั้งเมืองไปได้ ลองคิดดูว่าเมียวดีเป็นเมืองเศรษฐกิจการค้าชายแดนขนาดใหญ่ซึ่งทางฝั่งไทยมีปริมาณการค้าคิดที่ด่านแม่สอดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากด่านสะเดา เพื่อให้สอดคล้องกันทางฝั่งเมียวดีก็ต้องอาศัยศักยภาพทางศุลการกรและคนเข้าเมืองของพม่า ดังนั้นแม้ว่ากะเหรี่ยงยึดพื้นที่ได้แต่หากไม่มีเจ้าหน้าที่พม่ากับประชาชนมาอยู่ในเมืองก็จะไม่มีผลประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่ายเพราะเส้นทางการค้าไม่ได้หยุดลงที่เมียวดีแต่ยังต่อไปกอกะเรก ผาอัน และท่าเรือที่มะละแหม่ง
ที่น่าห่วงกว่าคือเรื่องธุรกิจสีเทาดำของคนจีนนอกเขตเมืองเมียวดีที่กะเหรี่ยงดูแล 3 พื้นที่ใหญ่ๆ ไล่มาตั้งแต่เหนือจรดใต้ คือชเวก๊กโก่ หวันหยา และ เคเคพาร์ค ทั้งหมดเป็นการลงทุนที่อ้างว่าเป็นสถานบันเทิงครบวงจร โรงแรม ศูนย์การค้า กาสิโน รวมทั้งอุตสาหกรรมไฮเทค แต่จริงแล้วคือฐานอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติระดับโลก สแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ และยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับธุรกิจแบบเดียวกันที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านด้านอื่นของไทย นักลงทุนจีนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีประวัติก่ออาชญากรรมระดับโลกแต่เข้าไปลงทุนที่เมียวดีได้เพราะมีกำลังติดอาวุธคุ้มครองและกฎหมายก็เข้าไม่ถึง
หากยังมีทหารพม่าอยู่ ในมุมของจีนที่โดนเรื่องอาชญากรรมออนไลน์หนักมาก จีนก็สามารถกดดันผ่านทหารพม่าให้จับตัวอาชญากรชาวจีนร่วม 900 คนส่งกลับไปจีนผ่านสนามบินแม่สอดอย่างเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่พอมีการขับไล่ทหารพม่าออกไปการปราบปรามแก้งค์อาชญากรรมข้ามชาติ คอลเซนเตอร์ ค้ามนุษย์ เหล่านี้เป็นกลุ่มก้อนก็จะทำได้ยากขึ้น จะต้องอาศัยความสัมพันธ์เฉพาะตัวกับกลุ่มกะเหรี่ยงเพื่อช่วยเหลือได้เป็นรายๆ ไป และถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ วันหนึ่งสภาพที่นอกเมืองเมียวดีอาจคล้ายกับที่เมืองเล้าก่ายย์ของโกกั้งก่อนที่จะมีการปราบปรามครั้งใหญ่ แต่คราวนี้ปัญหามาจ่อติดอยู่ริมเมยแคบๆ นี่เอง
และแล้ว..ผู้ที่ต้องรับผลกระทบมากที่สุดในแต่ละเรื่อง คงหนีไม่พ้นไทยเรานี่เอง ทุกเรื่องทุกประเด็นล้วนแต่มีความเปราะบางและมีผลกระทบต่อผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติ ขอได้โปรดใช้ความระมัดระวัง
Credit TB-Talk
