ที่วอชิงตันดีซี คุณปู่ไบเดนเป็นเจ้าภาพประชุมระดับผู้นำ 32 ประเทศสมาชิกนาโต้โดยเป้าหมายหลักคงเป็นการยืนยันสนับสนุนอาวุธให้ยูเครนต่อสู้กับรัสเซียต่อไปกับการหาลู่ทางให้ยูเครนได้เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ในโอกาสข้างหน้า โดยครั้งนี้นาโต้กล่าวหาจีนชัดเจนว่าให้การสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครนทำให้เป็นภัยคุกคามต่อยุโรป นอกจากนี้ไบเดนก็น่าจะใช้เวทีนี้ในการสร้างความเชื่อมั่นว่าเขายังสามารถนำอเมริกาและพันธมิตรแอตแลนติคเหนือสู้กับภัยคุกคามต่อไปได้
ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นจากการประชุมครั้งนี้
โชว์ความแข็งแกร่งของนาโต้ : ประธานาธิบดีไบเดนในวัย 81 ปีซึ่งอายุมากกว่านาโต้ ใช้โอกาสครบรอบ 75 ปีนาโต้แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันนาโต้เข้มแข็งขึ้นมากที่สุดที่เคยมีมาเพราะมีการลงทุนในการพัฒนาอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศและในการประชุมครั้งนี้ก็มีการตกลงกันว่าแต่ละประเทศสมาชิกจะกลับไปพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตนเองซึ่งหมายความว่านาโต้จะมีความสามารถมากขึ้นด้านนวัตกรรมและการแข่งขัน
ซึ่งนอกจากการผลิตอาวุธและยุทธภัณฑ์แล้วยังมีการวางแผนระดับชาติในการป้องกันประเทศร่วมกัน อีกทั้งการพัฒนาโครงสร้างการบังคับบัญชากองทัพและการนำแผนไปสู่การปฏิบัติร่วมกัน ทั้งนี้การเสริมสร้างความเข้มแข็งของนาโต้เป็นไปเพื่อป้องปรามรัสเซียที่ยังมุ่งทำสงครามกับยูเครนโดยการช่วยเหลือของจีน เกาหลีเหนือและอิหร่าน
ยืนยันสนับสนุนยูเครน : นาโต้ประกาศสนับสนุนยูเครนที่กำลังสู้รบกับรัสเซียต่อไปเช่นเดียวกับการสนับสนุนให้ยูเครนเข้ามาเป็นสมาชิกของนาโต้ โดยจะเปิดฐานการสนับสนุนด้านการฝึกอบรมทักษะต่างๆ ให้กับยูเครนในเยอรมนี รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกับนาโต้ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่พร้อมยูเครนก็จะเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ได้ในทันที ในส่วนของการสนับสนุนยุทธปัจจัยต่างๆ นาโต้ยืนยันจะสนับสนุนยูเครนภายใต้งบประมาณ 40,000 ล้านยูโร
โดยประธานาธิบดีไบเดนประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะส่งมอบระบบป้องกันภัยทางอากาศให้ยูเครนตามที่ขอ และภายในปีนี้สหรัฐกับอีก 4 ประเทศ คือ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี และโรมาเนียจะส่งมอบระบบแพทริออตให้กับยูเครนพร้อมกับ SAMP/T 1 ระบบในเดือนหน้า เช่นเดียวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศอีกกว่า 10 ระบบ ทั้งหมดนี้เป็นการส่งสัญญานที่ชัดเจนว่าสหรัฐและนาโต้จะสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซียกล่าวหาจีนช่วยเหลือรัสเซียในสงครามยูเครน : ทั้งโจ ไบเดนและเย็น สโตลเทนเบิร์ก ต่างกล่าวหาจีนว่าสนับสนุนสินค้าจำพวกไมโครชิพและอิเลคทรอนิกส์เพื่อให้รัสเซียนำไปใช้ผลิตอาวุธทำสงครามกับยูเครน เช่นเดียวกับเกาหลีเหนือและอิหร่านที่ให้การสนับสนุนรัสเซียอย่างต่อเนื่องซึ่งประเด็นนี้จีนออกมาตอบโต้ทันทีว่าสหรัฐและนาโต้กำลังใช้จีนเป็นข้ออ้างเพื่อขยายพันธมิตรนาโต้มาทางตะวันออกซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า
ขยายนาโต้เข้ามาภูมิภาคอินโดแปซิฟิก : นาโต้เห็นร่วมกันในการขยายเครือข่ายเข้ามาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยการประชุมในปีนี้ได้เชิญผู้แทนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอธิบายว่าเป็นการปรับยุทธศาสตร์ของนาโต้เพื่อต่อต้านภัยคุกคามซึ่งก็เป็นที่คาดหมายว่านาโต้ต้องการดึง 4 พันธมิตรแปซิฟิก หรือ P4 คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เข้ามาเพื่อรับมือกับการจับขั้วกันของรัสเซีย จีน และเกาหลีเหนือ
ในการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต้ครั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงความเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนยูเครนนั้นถือว่าเดินมาถูกทางแล้วเพราะยูเครนเท่านั้นที่จะหยุดปูตินได้ และยูเครนจะต้องเป็นฝ่ายชนะรัสเซียในที่สุด ซึ่งประเด็นนี้ ไบเดนจำเป็นต้องพูดเพื่อสะกดให้สมาชิกนาโต้ฟื้นความเชื่อมั่นจากความกังวลใจในหลายเหตุการณ์ช่วงนี้ ซึ่งได้แก่ การที่ในนาโต้เองก็ไม่มีเอกภาพจากการที่เริ่มมีมุ้งเล็กนำโดยวิคเตอร์ โอบาน ผู้นำฮังการีเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซียซึ่งก่อนที่จะมาประชุมนาโต้ที่สหรัฐ เขาก็ไปพบกับนายปูตินมาจนเป็นที่ฮือฮา หรือการที่พรรคฝ่ายขวาในหลายประเทศชนะการเลือกตั้ง กับได้ที่นั่งในสภายุโรปมากขึ้นซึ่งพรรคพวกเหล่านี้ไม่เห็นด้วยกับการที่ยุโรปใช้งบประมาณจำนวนมากไปสนับสนุนยูเครนและต้องการหลีกเลี่ยงการเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซียซึ่งเป็นมุมมองเดียวกับโดนัลด์ ทรัมพ์
ดังนั้นไม่ว่าฝ่ายขวาจะครองที่นั่งในสภายุโรป จะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหารในวันข้างหน้า หรือทรัมพ์กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่สร้างความกังวลให้กับสมาชิกนาโต้ จึงเป็นภาระที่ผู้นำสหรัฐจะต้องสร้างความเชื่อมั่นกลับมา และถ้าทำได้เขาก็จะสมาร์ทขึ้นในฐานะผู้นำนาโต้ แล้วอาการเสียคะแนนจากการเพลี่ยงพล้ำในการประชันวิสัยทัศน์กับทรัมพ์เมื่อหลายวันก่อนก็อาจหายเป็นปลิดทิ้ง
สำหรับข้อกล่าวหาว่าสมาชิกนาโต้บางประเทศไม่ยอมลงทุนในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้ได้ร้อยละ 2 ของ GDP ตามที่มีการตกลงกันไว้นั้น ขณะนี้ก็มีถึง 23 ประเทศแล้วที่ใช้งบประมาณถึงข้อกำหนดซึ่งมากกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วถึง 2 เท่า เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาภายในที่ไม่น่ากังวลเท่ากับปัญหาภายนอกอย่างกรณีที่จีนไปซ้อมรบกับเบลารุสซึ่งเป็นประเทศที่รัสเซียใช้เป็นสปริงบอร์ดเข้าไปโจมตียูเครนจึงไม่แปลกที่นาโต้มองว่าจีนกำลังท้าทายยุโรปและการที่จีนสนับสนุนรัสเซียอย่างไม่มีขอบเขตทำให้รัสเซียเป็นภัยคุกคามต่อยุโรปมากขึ้น
ดังนั้นการรวมตัวของสมาชิกนาโต้ที่สหรัฐครั้งนี้จึงสรุปลงที่นาโต้ต้องการสร้างความเชื่อมมั่นว่าจะสนับสนุนยูเครนต่อไปจนกว่าจะชนะรัสเซีย และต้องการพุ่งเป้าไปที่จีนเพื่อให้เลิกสนับสนุนรัสเซียหรือไม่ก็ต้องเป็นคนละฝ่ายกับนาโต้ซึ่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่าจะขยายปีกเข้ามาที่เอเชียแปซิฟิกผ่านพันธมิตร P4 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นประเด็นใด ถ้าโจ ไบเดน ผ่านงานนี้ไปได้อย่างไม่มีข้อบกพร่องเขาก็อาจได้รับความเชื่อมั่นกลับมาว่าจะสามารถเป็นประธานาธิบดีสหรัฐได้อีกสมัยหนึ่ง แต่โลกก็จะแบ่งเป็น 2 ค่ายที่เป็นปฏิปักษ์กันอย่างที่เห็น