สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Bureau of Economic Analysis-BEA) เปิดเผยเมื่อ 23 ก.ค.67 ว่า สหรัฐฯ ลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 364,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นปี 2566 ส่งผลให้มูลค่าสะสมรวมเป็น 6.68 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหราชอาณาจักรรับการลงทุนจากสหรัฐฯ มากที่สุด (1,057,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมา ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ (980,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลักเซมเบิร์ก (532,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ไอร์แลนด์ (491,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแคนาดา (451,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้น (Holding company) คิดเป็นร้อยละ 48.8 รองลงมาคือบริษัทในเครือการผลิต (ร้อยละ 14.9) รวมทั้งภาคการเงินและการประกันภัย (ร้อยละ 13.6)
ส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment-FDI) ของสหรัฐฯ เมื่อสิ้นปี 2566 เพิ่มขึ้น 227,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมมูลค่าสะสม 5.39 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ลงทุนมากอันดับ 1 ของสหรัฐฯ (717,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น (688,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แคนาดา (671,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และสหราชอาณาจักร (630,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคการผลิต (ร้อยละ 41.2) ภาคการเงินและการประกันภัย (ร้อยละ 10.6) และการค้าส่ง (ร้อยละ 10.1)