องค์การอนามัยโลก (WHO)
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 ระงับการประเมินวัคซีน Sputnik V เพื่ออนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 ระงับการประเมินวัคซีน Sputnik V เพื่ออนุมัติใช้เป็นกรณีฉุกเฉินชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 จะอนุญาตให้เที่ยวบินเส้นทางระหว่างประเทศทำการบินเข้า-ออกอินเดียได้ตามปกติตั้งแต่ 27 มี.ค.65 ตามกำหนดการเดิมที่ประกาศไว้ โดยไม่มีการกำหนดมาตรการควบคุมโรคเพิ่มเติม
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 จะฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มกระตุ้นให้กับประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใน รพ.รัฐ และ รพ.เอกชน ที่กำหนดในกรุงมัสกัต
ประกาศเมื่อ 16 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ทั้งหมด และจะยุบศูนย์บัญชาการและปฏิบัติการแห่งชาติ (NCOC) เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19 ใน 30 เม.ย.65
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 จะอนุญาตให้ชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ 12 เม.ย.65 เวลา 11.59 น. (เวลาท้องถิ่นนิวซีแลนด์) ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นตรวจลงตรา เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ รวมทั้งผู้ถือตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยว จะเริ่มเดินทางเข้านิวซีแลนด์ได้ใน 1 พ.ค.65 เวลา 11.59 น.
ประกาศเมื่อ 16 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยกำหนดให้ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศแสดงผลการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่แสดงผลไม่พบเชื้อ
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 บริษัท Pfizer-BioNTech ยื่นเอกสารถึงองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 เป็นกรณีฉุกเฉินแก่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดต่อการติดเชื้อ COVID-19 รุนแรงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้ว
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 ตั้งแต่ 16 มี.ค.65 จะปรับปรุงข้อปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางพิเศษแบบ Vaccinated Travel Lane (VTL) ที่เดินทางมาจากกัมพูชา สิงคโปร์ และไทย ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบโดส โดยใช้วิธี Test and Release คือ ตรวจหาเชื้อที่ท่าอากาศยานและสามารถออกจากท่าอากาศยานได้ทันที จากเดิมที่ต้องรอทราบผลตรวจ
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 จะอนุญาตสถานศึกษาทุกระดับชั้นกลับมาเปิดเรียนตามปกติตั้งแต่ 20 มี.ค.65
ตำรวจตระเวนชายแดน เมือง Jutland ของเดนมาร์ก ออกแถลงการณ์เมื่อ 15 มี.ค.65 ไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่ลี้ภัยในเยอรมนีและต้องการเดินทางไปสวีเดนและนอร์เวย์ ใช้เดนมาร์กเป็นทางผ่าน โดยเดนมาร์กดำเนินการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวยูเครนกลับไปยังเยอรมนีแล้วอย่างน้อย 250 ราย พร้อมทั้งยืนยันว่าเดนมาร์กจะเปิดรับเฉพาะผู้ลี้ภัยที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งความประสงค์ขอลี้ภัยอย่างถูกต้องเท่านั้น เนื่องจากการอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยใช้เดนมาร์กเป็นประเทศทางผ่านจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคง ทั้งนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประเมินว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยจากยูเครนแล้วอย่างน้อย 3 ล้านคน