ผลวิจัยเศรษฐกิจของ Nomura บริษัทหลักทรัพย์ญี่ปุ่น และข้อมูลความคิดเห็นของกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจในประเทศ เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ และนักลงทุนมีความกังวลอย่างมากกรณีจีนและสหรัฐฯ ออกมาตรการกีดกันทางการค้าต่อกัน และยังมีแนวโน้มจะตึงเครียดมากขึ้นอีก ซึ่งทำให้อาจต้องย้ายฐานการผลิตใหม่เพื่อไม่ให้ธุรกิจได้รับผลกระทบ โดยประเทศที่น่าสนใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย
ทั้งนี้ ไทยมีจุดเด่นด้านโครงสร้างพื้นฐานการผลิต ระบบขนส่งโลจิสติกส์ และการมีฐานข้อมูลที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ไทยยังตามหลังนั้น ในส่วนของเวียดนามคือ แรงงานมีทักษะที่ดีกว่า โดยเฉพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยีมีทักษะสูงกว่าแรงงานไทย และในส่วนของมาเลเซียคือ พลังงานและมาตรการสนับสนุนที่พร้อมกว่าไทย โดยเฉพาะการมีพลังงานสะอาดที่กำลังเป็นเทรนด์สำคัญของธุรกิจแทบทุกประเภท
นอกจากนี้ ไทยยังมีปัญหาการเมืองไม่มีเสถียรภาพที่กำลังเป็นปัจจัยให้นักลงทุนชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยที่ไทยยังตามหลังประเทศอื่นเป็นสิ่งที่สามารถพัฒนาเปลี่ยนแปลงได้ โดยเฉพาะเรื่องพลังงานสะอาดที่ไทยมีทรัพยากรมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ขณะที่แรงงานยังอยู่ในวิสัยที่พัฒนาทักษะได้ ซึ่งหากไทยเปลี่ยนแปลงได้จะทำให้ธุรกิจที่อาศัยการลงทุนระยะยาวเข้ามาลงทุนในไทยมากกว่า
