กรณี ส.อ.ท. เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำ พ.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวลดลงจาก เม.ย. 67 และเป็นการลดลงทุกองค์ประกอบทั้งในด้านยอดคำสั่งซื้อและยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ เนื่องมาจากกำลังซื้อในประเทศยังเปราะบาง เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ และการถูกชิงส่วนแบ่งตลาดจากสินค้าที่มีราคาถูกจากต่างประเทศได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการและกระทบต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ
โดยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมได้ออกมาสอดคล้องกับสถานการณ์การปิดกิจการของโรงงานที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2567 หรือเฉลี่ย 113 โรงงานต่อเดือน ส่วนใหญ่เป็นกิจการโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมโลหะ อุตสาหกรรมไม้และการแปรรูปไม้ รวมถึงมีรายงานข่าวสารถึงการปิดตัวของธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง และรายงานข่าวการลดกำลังผลิตของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ ที่ส่งผลโดยตรงต่อระดับการจ้างแรงงานและรายได้ของลูกจ้างลดลง จึงเป็นสาเหตุให้ภาพรวมการบริโภคในประเทศลดลงด้วย
ที่มา