หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ย้ำเตือนเมื่อปลาย กรกฎาคม 2567 ว่าต่างประเทศกำลังวางแผนการและเริ่มแทรกแซงการเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นใน พฤศจิกายน 2567 โดยผู้อำนวยสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ (Director of National Intelligence) ระบุว่าต่างประเทศเริ่มปฏิบัติการข่าวสารเพื่อสร้างอิทธิพล (influence Operations) ต่อความคิดเห็นของชาวอเมริกันต่อการเมืองและการเลือกตั้ง โดยใช้ประโยชน์จากเทคนิคและข้อมูลของบริษัทโฆษณาและการตลาดไปวางแผนการเผยแพร่ข้อมูล สร้างช่องทางสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อโน้มน้าวความคิดเห็นของชาวอเมริกันต่อการเลือกตั้ง ซึ่งการใช้กระบวนการว่าจ้างบริษัทเหล่านี้ทำให้ปฏิบัติการของต่างชาติในการแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ แนบเนียนและตรวจสอบได้ยากขึ้น
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ คาดว่ารัสเซีย จีน และอิหร่าน เป็น 3 ประเทศหลักที่พยายามแทรกแซงการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเมืองและต่างประเทศของอเมริกา ให้เป็นประโยชน์กับประเทศตนเองมากขึ้น โดยรัสเซียค่อนข้างมีศักยภาพสูง เพราะสามารถว่าจ้างและใช้บริษัทในรัสเซียดำเนินการได้ทันที เป้าหมายเพื่อให้ชาวอเมริกันมีมุมมองเชิงบวกต่อรัสเซียมากขึ้น และคาดว่ารัสเซียจะสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้ชนะการเลือกตั้งด้วย ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี 2567 สหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทรัสเซีย 2 แห่งเพราะสร้างเว็บไซต์ปลอมแอบอ้างเป็นตัวแทนรัฐบาลประเทศในยุโรป
ขณะที่จีนไม่ได้มีเป้าหมายจะแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยตรง แต่จะพยายามทำลายความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันต่อนักการเมืองหรือผู้แทนพรรคการเมืองสหรัฐฯ ที่มีแนวคิดไม่ชอบจีน โดยจีนว่าจ้างและร่วมมือกับบริษัทเอกชนเพื่อปฏิบัติการเผยแพร่อิทธิพลด้วยวิธีการลับเช่นกัน ด้านอิหร่านจะเน้นความพยายามทำลายความสงบในสหรัฐฯ รวมทั้งเน้นบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 ประเทศปฏิเสธข้อคิดเห็นและมุมมองของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ดังกล่าว
สหรัฐฯ เพิ่มการแจ้งเตือนและเฝ้าระวังการแทรกแซงการเลือกตั้งมากขึ้น เนื่องจากมีหลักฐานว่าการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เคยถูกแทรกแซงเมื่อปี 2559 และปี 2563 แม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อคะแนนเลือกตั้ง แต่สร้างบรรยากาศไม่มั่นคงทางการเมืองและเชื่อมั่นระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันอาจประเมินได้ว่าบรรยากาศการเมืองสหรัฐฯ ค่อนข้างอ่อนไหว เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองหลักค่อนข้างรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของประเทศ ขณะเดียวกันบทบาทและอิทธิพลของสหรัฐฯ ในเวทีระหว่างประเทศก็ลดลง พิจารณาจากการที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศได้อย่างเด็ดขาด ทั้งสถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางและสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน คาดว่าหลังจากนี้ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับภารกิจปกป้องการเลือกตั้งสหรัฐฯ จากภัยคุกคามต่าง ๆ ทั้งการแทรกแซงจากต่างประเทศ ความรุนแรงทางการเมือง และการโจมตีทางไซเบอร์