จากปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยในปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 16,400,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มจะกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบ้าน และหนี้บัตรเครดิต โดยหนี้บัตรเครดิตที่เป็นหนี้เสียกำลังมีจำนวนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุมีทั้งจากพฤติกรรมจับจ่ายเกินตัว และจากปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน/รายได้ไม่พอรายจ่าย แต่มีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจและน่ากังวล คือ การพบประชาชนส่วนหนึ่งเข้าไปรวมตัวจัดตั้งกลุ่มในโซเชียลมีเดียเพื่อหารือถึงการก่อหนี้และการชดใช้หนี้อย่างผิดวิธี (พบมีการตั้งกลุ่มเป็นจำนวนมาก โดยกลุ่มใหญ่มีสมาชิกมากกว่า 157,300 บัญชีผู้ใช้งาน)
ทั้งนี้ภายในกลุ่มดังกล่าวจะมีทั้งผู้ที่อ้างตัวเป็นทนายความ ผู้ที่เป็นลูกหนี้ และผู้ที่กำลัง/พยายามหาทางก่อหนี้เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่าย ต่างเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูล/ความคิดเห็นถึงแนวทางการก่อหนี้บัตรเครดิต/สินเชื่อเงินสดให้ได้มากที่สุด แนวทางการหลบเลี่ยงไม่ชำระหนี้ให้นานที่สุด และแนวทางการประนอมลดหนี้เพื่อให้เหลือจำนวนหนี้ที่ต้องชดใช้น้อยที่สุด ซึ่งล้วนเป็นแนวทางที่ยิ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่ดี หรือไม่มีความรับผิดชอบทางการเงินหรือในการก่อหนี้ และจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าความเสียหายและปัญหาในทางเศรษฐกิจต่อไป
