สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดีลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ โดยระบุเมื่อ 29 ส.ค.67 ว่ายังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเกตุของนาย Thomas Crooks ชายชาวอเมริกันอายุ 20 ปี ที่พยายามยิงลอบสังหารทรัมป์ระหว่างการหาเสียงเมื่อ 13 ก.ค.67 แต่มั่นใจว่าก่อเหตุเพียงลำพัง ผู้ก่อเหตุไม่มีสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ในเลือด
นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุติดตามความเคลื่อนไปวของทรัมป์อย่างต่อเนื่อง เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการหาเสียงของทรัมป์และประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน รวมทั้งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ด้วย ดังนั้น การที่ทีมหาเสียงของทรัมป์ประชาสัมพันธ์กำหนดการหาเสียงล่วงหน้า ทำให้ทรัมป์มีความเสี่ยงตกเป็นเป้าหมายโจมตีที่ง่ายขึ้น (target of opportunity) สำหรับการเตรียมการ ผู้ก่อเหตุเตรียมอาวุธล่วงหน้า ศึกษาแผนการและรูปแบบการก่อเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เคเนดี้ ศึกษาเกี่ยวกับสถานกที่หาเสียงและลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการหาเสียงของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม มูลเหตุจูงใจในกาก่อเหตุครั้งนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากประวัติการใช้สื่อสังคมออนไลน์สามารถเชื่อมโยงได้หลายเรื่อง ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าในการสืบสวนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนโจมตี FBI ว่าสืบสวนล่าช้าและไม่ให้โอกาสหน่วยงานอื่น ๆ ได้ตรวจสอบร่างผู้ก่อเหตุหลังจากถูกวิสามัญ นอกจากนี้ หน่วยความมั่นคงและหน่วยอารักษาบุคคลสำคัญตกเป็นเป้าหมายวิจารณ์ว่าล้มเหลวในการปฏิบัติงานด้วย กรณีนี้ทำให้นาง Kimberly Cheatle ผู้อำนวยการหน่วยอารักษาบุคคลต้องลาออกจากตำแหน่ง
ทรัมป์ยังเผชิญความท้าทายทางการเมืองจากคดีเก่า ล่าสุดคดีที่กล่าวหาทรัมป์ว่าแทรกแซงการเลือกตั้งเมื่อปี 2563 ถูกหยิบยกขึ้นมาให้กระทรวงยุติธรรม และศาลสูงสุดของสหรัฐฯ พิจารณาอีกครั้ง แม้ว่าทรัมป์จะปฏิเสธอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม คดีต่าง ๆ จะยังไม่ถูกพิจารณาก่อนการเลือกตั้งใน พ.ย.67 แต่กรณีนี้อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของทรัมป์ในรัฐที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกพรรค และรัฐที่มีการแข่งขันสูง
ปัจจุบันคะแนนนิยมของแฮร์ริสยังสูงกว่าทรัมป์เล็กน้อย ที่ประมาณร้อยละ 47 ต่อ 45 มีรายงานว่าพรรครีพับลิกันและทีมหาเสียงกำลังโน้มน้าวทรัมป์ให้เร่งเพิ่มคะแนนนิยมด้วยการประชาสัมพันธ์นโยบาย มากกว่าการโจมตีที่กมลา แฮร์ริส ผู้แทนฝั่งพรรคเดโมแครต หรือประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน เพราะชาวอเมริกันจะให้ความสนใจมากกว่า จึงต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการเอาชนะครั้งนี้ ปรากฏการณ์นี้ถือว่าเป็นความสำเร็จของพรรคเดโมแครตที่เสี่ยงเลือกผู้แทนพรรคคนใหม่ เพราะสามารถทำให้ฝ่ายรับลิกันต้องทบทวนแนวทางการเอาชนะได้ สำหรับแฮร์ริสกำลังจะให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนครั้งแรก ที่สำนักข่าว CNN โดยมีทิม วอลส์ คู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเข้าร่วมด้วย